อาหารต้านไมเกรน
ผู้เรียบเรียง : สิริวรรณ สุขนิคม | ||
สำนักพิมพ์ : ใกล้หมอ | ||
จำนวนหน้า : 145 หน้า | ||
ราคา : 149 บาท | ||
ผู้สรุป : นายพงศ์วรินทร์ บูรณสถิตย์วงศ์ กพต. ฝพช. | ||
บทสรุป :
อาการปวดศีรษะเป็นความผิดปกติของร่างกายที่เราพบได้บ่อยๆ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากสถานการณ์ แต่มีก็มีอาการปวดศีรษะอยู่ประเภทหนึ่งที่ทำให้ใครหลายคนเข็ดขยาด บางคนปวดนานและบ่อย บางคนมีอาการเป็นเดือนหรือปีก็ไม่หายสักที บางคนปวดมากจนทำงานไม่ได้ ซึ่งอาการปวดที่ว่าก็คือ “ไมเกรน” นั่นเอง โรคไมเกรน เป็นโรคที่เกิดจากการบีบตัว และคลายตัวของหลอดเลือดในสมองมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะขึ้นอย่างรุนแรง และรวดเร็ว พร้อมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ในบางรายอาจมีอาการตาพร่ามัว หรือเห็นแสงระยิบระยับร่วมด้วย พบมากในช่วงอายุ 10-30 ปี โดยเฉพาะผู้หญิง มักเป็นมากกว่าผู้ชาย อาการ 2. ลักษณะการปวดศีรษะส่วนมากมักจะปวดตุ๊บ ๆ นานครั้งหนึ่งเกิน 20 นาที ผู้ป่วยบางรายอาจมีปวดตื้อ ๆ สลับกับปวดตุ๊บ ๆ ในสมองก็ได้ ปวดศีรษะที่ไม่ใช่ไมเกรน 1. อาการปวดศีรษะแบบมึนๆ อาหารนำไมเกรน อันที่จริงแล้วตัวกระตุ้นภายไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริงของไมเกรน แต่เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในสมอง แต่สาเหตุหนึ่งที่เป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญคือ “อาหาร” ซึ่งอาหารที่เป็นตัวกระตุ้นนั้นอาจมีหลายชนิด และต่อไปนี้คือรายการอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นตัวกระตุ้นอาการ อาหารประเภทเนื้อ ได้แก่ เนื้อกระป๋อง เบคอน โบโลน่า ตับไก่ แฮมกระป๋อง คอร์นบีฟ ไส้กรอก ตับบด เป๊ปเปอร์โรนี่ และสารามี่ เป็นต้น เครื่องปรุงรส ได้แก่ ผงชูรส สารให้ความหวานแทนน้ำตาล น้ำส้มสายชู และซอสปรุงรส เป็นต้น ผลิตภัณฑ์จากนม ได้แก่ เนยแข็ง บัตเตอร์มิลค์ ไอศกรีม และซาวด์ครีม เป็นต้น ผลิตภัณฑ์จากแป้ง ได้แก่ ขนมปัง และเบเกิล เป็นต้น อาหารประเภทผัก ได้แก่ ถั่วต่างๆ หัวหอม งา เมล็ดฟักทอง และเห็ด เป็นต้น เครื่องดื่ม ได้แก่ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และคาเฟอีน เป็นส่วนประกอบ ของหวาน ได้แก่ เค้ก ท๊อฟฟี่ ช๊อกโกแล็ต และคุ้กกี้ เป็นต้น อาหารปราบไมเกรน การกินอาหารที่จำเป็นบางอย่างช่วยป้องกันไมเกรนได้ ทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญได้แก่ 1. กรดไขมันโอเมก้า-3 จากปลาทะเล จำพวกปลาทู แซลมอน ทูน่า และซาร์ดีนช่วยให้ หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ช่วยบำรุงระบบประสาท และป้องกันไมเกรนได้ 2. แมกนีเซียม การวิจัยพบว่ากินแมกนีเซียม 200 มิลลิกรัมเสริมทุกวัน ช่วยลดความถี่ขอ อาการไมเกรนลง หรืออาจจะกินจากอาหารก็ได้ โดยแมกนีเซียมมีมากในเมล็ดธัญญพืชเต็มรูป เช่น ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต และผักใบเขียว เช่น ปวยเล้ง ผักโขม บรอกโคลี คะน้า ส่วนในนมถึงแม้มีแคลเซียมสูง แต่เป็นตัวนำไมเกรนชั้นยอด จึงควรหลีกเลี่ยง แคลเซียมและวิตามินดี ช่วยป้องกันไมเกรนได้เช่นกัน พบมากในผักใบเขียว และถั่ว ไรโบฟลาวิน หรือ วิตามินบี 2 จากงานวิจัยยังพบว่า การกินไรโบฟลาวิน หรือ วิตามินบี 2 ทุกวัน จะช่วยลดจำนวนครั้งการเป็นไมเกรนลง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งพบมากในธัญพืช ข้าวซ้อมมือ และมันฝรั่ง สมุนไพรต้านไมเกรน 1. ฟีเวอร์ฟิว (Fever few) สารเคมีในฟีเวอร์ฟิวจะช่วยเพิ่มการหลั่งของฮอร์โมนเซโทนิน และสารพรอสต้าแกลนดิน ซึ่งเป็นสาเหตุของการบีบตัว อย่างเฉียบพลันของหลอดเลือดภายในศีรษะ ซึ่งเป็นสาเหตุของไมเกรน ซึ่งสมุนไพรชนิดนี้ส่วนใหญ่ปลูกในประเทศญี่ปุ่น และแอฟริกาใต้ โดยแปรรูปในรูปของเครื่องดื่ม 2. เปปเปอร์มินต์ เป็นสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการไมเกรนได้ ซึ่งมักแปรรูปเป็นเครื่องดื่มหรือสารสกัดที่เป็นแคปซูล แต่ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม และควรหยุดทันทีหากมีปัญหากรดในกระเพาะสูง 3. ดอกเสาวรส มักแปรรูปในรูปของชาดอกเสาวรส มีคุณสมบัติ ช่วยลดความกังวลใจ ระงับการติดเชื้อ บรรเทาอาการไมเกรนได้ในระดับหนึ่ง 4. แปะก๊วย เป็นสมุนไพรที่ช่วยลดอาการปวดหัวได้ดี มีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง กระตุ้นระบบไหลเวียนของโลหิต แต่ไม่ควรรับประทานควบคู่กับยาบรรเทาอาการปวดศีรษะ การบรรเทาอาการไมเกรนด้วยตนเอง ใช้ก้อนน้ำแข็งหรือกระเป๋าน้ำแข็งประคบศีรษะ เพื่อให้เส้นเลือดหดตัวและบรรเทาอาการปวด นอนพักในห้องที่เงียบและมืด นวดด้วยกลิ่นหอมๆ จดบันทึกอาการที่เกิดขึ้น วัน เวลา ระยะเวลาที่ปวด คอยสังเกตอาหารก่อนเริ่มมีอาการปวด เช่น อาการหิว เพลีย ง่วงนอน อ่อนเพลีย เสียงที่รบกวน งดอาหารบางชนิดเช่น ผงชูรส พิชช่า ชีส เหล้า กาแฟ เนย ช๊อกโกแล๊ต เป็นต้น พยายามพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มี โอเมก้า 3 ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ เป็นประจำ ส่วนหนุ่มสาวที่ยังถูกไมเกรนรบกวน หากได้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างเต็มที่ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดอาการนี้ได้เช่นกัน |
||