เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » สรุปหนังสือ » รายละเอียด

6 โรคร้าย ผู้หญิงควรระวัง

   
ผู้เรียบเรียง : ชัญวลี ศรีสุโข 
สำนักพิมพ์ : บริษัท อัมรินทร์ พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด
จำนวนหน้า : 150 หน้า
ราคา : 169 บาท
ผู้สรุป : พูนสุข มนัสวิวัฒน์ กธฝ. ฝรธ.  
   
   
บทสรุป :

 

ผู้เขียนมีผลงานการเขียนเรื่องสุขภาพ ในวารสาร นิตยสาร และหนังสือพิมพ์รายวันหลายเล่ม ปัจจุบันเป็นสูติ-นรีแพทย์ โรงพยาบาลพิจิตร จังหวัดพิจิตร

หนังสือเล่มนี้ พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อ ก.พ. 2550 และพิมพ์ครั้งที่ 2 เมื่อ มิถุนายน 2550 ได้รวมความรู้อันทันสมัย มีสาระของโรคยอดฮิต และเป็นมากที่สุดในผู้หญิง สรุปได้ดังนี้

1. โรคเนื้องอก (กล้ามเนื้อ) มดลูก

เนื้องอกมดลูก เป็นการงอกที่ผิดปกติของเซลล์ชั้นกล้ามเนื้อของมดลูก ทำให้มดลูกขยายขนาดขึ้น เนื้องอกมักจะแข็ง เด้ง ๆ เหมือนยางลบ แต่มีบางส่วนแข็งเหมือนหิน เพราะมีหินปูนเข้ามาเกาะ

ตำแหน่งที่อยู่ของเนื้องอกมดลูก มีดังนี้ (1) อยู่ในโพรงมดลูก (2) อยู่ในตัวมดลูก(3) อยู่ที่ผิวมดลูก (4) อยู่ในปีกมดลูก และ (5) อยู่ที่ปากมดลูก

ผู้หญิงที่เสี่ยงต่อการมีเนื้องอกมดลูก มีลักษณะดังนี้ (1) คนในครอบครัวเป็นโรคนี้ (2) เคยแท้งขณะตั้งครรภ์ (3) ไม่มีลูกหรือมีลูกยาก (4) มีลูกหลายคน (5) หมดประจำเดือนเร็ว (6) กินยาคุมกำเนิด (7) ชอบดื่มแอลกอฮอล์ (8) อ้วน (9) สิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ เช่น รับสารปนเปื้อนในยาฆ่าแมลง

อาการที่พบบ่อย มีดังนี้ (1) ปวดท้องเวลายกของหนัก หรือเวลามีเพศสัมพันธ์(2) ปวดประจำเดือน (3) ปวดหลัง (4) มีเลือดออกผิดปกติ (5) ปัสสาวะไม่สะดวก ปัสสาวะบ่อย (6) จุก แน่นท้อง (7) ท้องโตขึ้น (8) ซีด และอ่อนเพลีย

การรักษา มีหลายวิธีดังนี้ (1) ใช้ยา (2) ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ (3) จี้ทำลาย (4) ฉีดสารอุดตันเส้นเลือด (5) ฉายแสง (6) ผ่าตัด

การตรวจด้วยตนเอง คือ (1) คลำหาก้อนที่เต้านม... ควรคลำหลังจากหมดประจำเดือน 1 สัปดาห์ โดยคลำตอนที่อาบน้ำถูสบู่ จะคลำได้ง่ายขึ้น (2) คลำหน้าท้อง ควรคลำตอนตื่นนอน และยังไม่ได้ปัสสาวะ ถ้าเป็นก้อนผิดปกติ จะรู้สึกแข็ง ๆ ให้รีบไปพบสูติ-นรีแพทย์


2. โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ คือ บริเวณอุ้งเชิงกราน ได้แก่ รังไข่ และท่อนำไข่

ผู้ที่เสี่ยงเป็น คือ (1) คนโสด (2) มีบุตรยาก (3) มีประจำเดือนเร็วก่อนอายุ 12 ปี (4) มีประจำเดือนมาบ่อย เช่น เดือนหนึ่งมาสองครั้ง (5) หมดประจำเดือนอายุเกิน 55 ปี (6) เป็นโรคช่องคลอด หรือปากมดลูกตีบตัน

การรักษาด้วยการใช้ยาและผ่าตัด ซึ่งจะทำลายเยื่อบุในโพรงมดลูกเจริญผิดที่ไปหมดแล้ว แต่ก็อาจจะกลับมาเป็นได้อีก ดังนั้น แพทย์จึงให้ฮอร์โมนรักษาต่ออีกนานถึง 6 เดือน เพื่อลดโอกาส การกลับคืนของโรคนี้

3. โรคเนื้อร้ายของรังไข่ (มะเร็งรังไข่) โรคที่เป็นแล้วตายสูงสุด ในบรรดาโรคมะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์สตรี ซึ่งโรคนี้ คือ โรคที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์เปลี่ยนจากเซลล์ธรรมดาไปเป็นเซลล์มะเร็ง

มะเร็งรังไข่ มี 5 ชนิด คือ (1) มะเร็งเยื่อบุผิวรังไข่ พบในหญิงที่มีอายุเฉลี่ย 56 ปี (2) มะเร็งของฟองไข่ พบในหญิงที่มีอายุ 19 ปี (3) มะเร็งเนื้อรังไข่ พบในหญิงที่มีอายุ 40-50 ปี (4) มะเร็งรังไข่ที่กระจายมาจากอวัยวะอื่น ได้แก่ มะเร็งกระเพาะอาหาร ลำไส้ เป็นต้น

สาเหตุการเกิดมะเร็งรังไข่ ขึ้นอยู่ปัจจัย ดังนี้ (1) พันธุกรรม (2) รังไข่ทำงานโดยไม่ได้พักผ่อน เช่น คนที่มีลูกหลายคน มีอายุเกิน 30 ปี และหมดประจำเดือนเร็วก่อนอายุ 50 ปี (3) ใช้สารทาลค์ (Talc) ที่อยู่ในแป้งป้องกันการเปียกชื้น ทาบริเวณขาหนีบและอวัยวะเพศ ซึ่งสารนี้จะกระจายเข้าไปในอุ้งเชิงกราน โดยผ่านทางช่องคลอด ปากมดลูก ปีกมดลูก แล้วไปสะสมที่รังไข่ จนอาจทำให้เกิดเป็นมะเร็งรังไข่ได้ (4) ทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น นม เนย ไขมันสัตว์ เป็นต้น

อาการของโรคนี้ คือ (1) ปวดท้องตื้อ ๆ ที่ท้องน้อย (2) เจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์  (3) ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย อิ่มง่าย (4) แน่นท้อง ท้องโตขึ้น (5) ปัสสาวะลำบาก กะปริบกะปรอย (6) ประจำเดือนผิดปกติ... มาบ่อยและมานาน (7) น้ำหนักลด เบื่ออาหาร อาเจียน ไม่มีแรง (8) ขาบวม คอบวม

การรักษาโรคนี้ คือ (1) ผ่าตัด (2) ให้สารเคมีบำบัด (3) ฉายแสง หรือรังสีรักษา (4) รักษาทางกาย โดยเลือกอาหาร กินวิตามิน การอบ การนวด การสวนล้างลำไส้โดยแพทย์กดจุด ฝังเข็ม (5) รักษาทางใจ ด้วยการนั่งสมาธิ สวดมนต์ภาวนา

4. มะเร็งปากมดลูก เป็นโรคที่พบมากเป็นอันดับสอง รองจากมะเร็งเต้านม ของสตรีทั่วโลก

สาเหตุการเกิดโรคนี้ เป็นเรื่องของ (1) พันธุกรรม (2) ยีนบางตัวที่ได้มาแต่กำเนิด (3) การติดเชื้อไวรัสหูด หรือที่เรียกว่า HPV โดยติดมาจากการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อไวรัสตัวนี้

ลักษณะของหญิงที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV คือ (1) แต่งงานอายุน้อยกว่า 17 ปี (2) มีลูกมากกว่า 4 คน (3) มีสามีหลายคน (4) มีโรคประจำตัว เช่น โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน  (5) สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า

การรักษาด้วยวิธีดังนี้ (1) ผ่าตัด (2) ฉายแสง (3) เคมีบำบัด

5. โรคอุ้งเชิงกรานอักเสบ หรือโรคไข้ทับระดู

พบในหญิงที่ชอบเป็นไข้ทับระดู และเป็นผลมาจากการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรคนี้เกิดจากการอักเสบติดเชื้อ ของปากมดลูก มดลูก และปีกมดลูก

ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ (1) อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี (2) มีคู่นอนหลายคน (3) ชอบสวนล้างช่องคลอด (4) ติดเชื้อหนองใน

อาการของโรคนี้ คือ (1) ปวดท้องน้อยทั้ง 2 ข้าง (2) มีไข้สูง (3) ตกขาว (4) ตกเลือด (5) ทำแท้ง (6) ท้องอืด (7) คลื่นไส้ อาเจียน

6. โรคช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียเพิ่มจำนวน

เป็นโรคที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงจำนวนและชนิดของแบคทีเรียในช่องคลอด พบมากในหญิงที่ตกขาว และช่องคลอดอักเสบ

ปัจจัยเสี่ยง คือ (1) มีคู่นอนหลายคน (2) มีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง (3) สูบบุหรี่ (4) ชอบกินของหมักดอง (5) สวนล้างช่องคลอด (6) ชอบใช้สบู่ล้างเข้าไปในช่องคลอด

คุณผู้หญิงที่อ่านจบแล้ว ควรชวนให้คุณผู้ชายอ่านบ้าง เพื่อรับมือกับโรคร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นนะคะ ห่วงใยทั้งคู่ค่ะ รายละเอียดที่น่าสนใจมีอีกมาก โดยเฉพาะตัวอย่างของผู้ที่เป็นโรคร้าย บรรจุอยู่ในหนังสือเล่มนี้ หาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ห้องสมุด ชั้น 8 ค่ะ

   
สารบัญ