ผู้นำเหนือระดับ ด้วยวิสัยทัศน์เหนืออนาคต
ผู้เรียบเรียง : บลังชาร์ด เคน | ||
สำนักพิมพ์ : บริษัท ไพบูลย์อ๊อฟเซต จำกัด | ||
จำนวนหน้า : 460 หน้า | ||
ราคา : 360 บาท | ||
ผู้สรุป : พูนสุข มนัสวิวัฒน์ | ||
บทสรุป :
หนังสือเล่มนี้ช่วยสลายความเป็นผู้นำแบบเก่าให้กลายเป็นอดีต โดยมีความเป็นผู้นำแบบใหม่เข้ามาแทน อ่านแล้วชอบในตรงที่แต่ละส่วนและแต่ละบทของหนังสือได้พิมพ์ตัวหนาสำหรับข้อความที่สำคัญ ทำให้สะดุดตาในเนื้อหาที่ไม่เพียงแต่เพื่อการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำเท่านั้น ยังคงมีประโยชน์ในวงกว้างไปถึงพนักงานทุกระดับในองค์กรอีกด้วย สรุปได้ดังนี้ ส่วนที่ 1 เล็งให้ถูกเป้าหมายและใช้ให้ถูกวิสัยทัศน์ บทที่ 1 ในองค์กรที่มีผลสัมฤทธิ์อันยอดเยี่ยม ทุกคนจะมุ่งเน้นไปที่หลัก 3 ประการ คือ (1) การเป็นผู้จัดหาที่ดีที่สุด (2) การเป็นนายจ้างที่ดีที่สุด (3) การเป็นนายทุนที่ดีที่สุด บทที่ 2 พลังแห่งวิสัยทัศน์ วิสัยทัศน์ คือ แนวทางที่ใช้ในการตัดสินใจเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวัน เพื่อให้พนักงานสามารถเล็งไปยังเป้าหมายที่ถูกต้องและไม่ทำอะไรที่ก่อให้เกิดการขัดแย้ง หรือกีดขวางกับความตั้งใจของผู้อื่น การขาดวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนร่วมกับของคนในองค์กร เป็นเหตุทำให้พนักงานเกิดการแก่งแย่ง แข่งขันทางอำนาจหน้าที่ เกิดปัญหาการทำงานซ้ำซ้อนและเกิดการผิดพลาดและสูญเสียของพลังงานวิสัยทัศน์ช่วยสร้างความไว้วางใจ ความร่วมมือช่วยให้พนักงานรู้จักทางเลือกที่ถูกต้อง ส่วนที่ 2 ปฏิบัติต่อลูกค้าให้ถูกต้อง บทที่ 3 บริการลูกค้าให้เหนือกว่าด้วยการฟังเสียงลูกค้าและลงมือปฏิบัติเพื่อตอบสนอง เป็นสิ่งที่จะสร้างแฟนพันธุ์แท้ได้ทำทุกอย่างให้เหนือยิ่งกว่าการให้บริการลูกค้าทั่วไป เพื่อมุ่งหวังให้ลูกค้าอยากบอกต่อเรื่องราวเกี่ยวกับองค์กรในแง่บวก ส่วนที่ 3 ปฏิบัติต่อพนังงานให้ถูกต้อง บทที่ 4 การมอบอำนาจคือหัวใจสำคัญ มีกุญแจ 3 ดอก ดังนี้ (1) แบ่งปันข้อมูล หมายถึง การเปิดเผยข้อมูล เช่น กิจกรรมของคู่แข่งขัน แผนธุรกิจในอนาคตและกลยุทธ์ขององค์กร ซึ่งต้องสอดส่องคู่แข่ง สำรวจตลาดและติดตามความเป็นไปของโลก (2) สร้างแผนผังของขอบเขต ด้วยการประกาศขอบเขต ช่วยเปลี่ยนภาพรวมที่กำหนดไว้ให้กลายเป็นการปฏิบัติจริง อาจเปรียบเทียบกับการเรียนเป็นหลักกิโลเมตรที่กำหนดเอาไว้ เพื่อวัดความก้าวหน้าในกระบวนการทำงาน (3) การทำงานแบบบริหารด้วยตัวเองและการทำงานเป็นทีมผลลัพธ์ที่ได้ คือ บรรยากาศในการทำงานเป็นไปด้วยความกระตือรือร้นและมีผลผลิตเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ค่าใช้จ่ายลดลง บทที่ 5 ผู้นำตามสถานการณ์ที่มาจากการออกแบบให้สอดคล้องกับการพัฒนาบุคลากรเป็นผู้ที่สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยตนเอง สำหรับทักษะ 3 ข้อ ของการเป็นผู้นำตามสถานการณ์มีดังนี้ (1) การวินิจฉัย กุญแจสำคัญ คือ ความสามารถและความร่วมมือ (2) ความยืดหยุ่น (3) การเป็นพันธมิตรในการปฏิบัติงานจะช่วยเปิดการสื่อสาร ช่วยเพิ่มทั้งคุณภาพและปริมาณ บทที่ 6 การเป็นผู้นำตัวเอง พนักงานจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนการเป็นผู้นำตัวเอง สำหรับทักษะของการเป็นผู้นำตัวเอง มีดังนี้ (1) การท้าทายความเชื่อดั้งเดิม หมายถึง ความเชื่อที่เกิดจากประสบการณ์ในอดีตที่กลายเป็นข้อจำกัดในการเปิดรับประสบการณ์ในปัจจุบันและอนาคต (2) ยกย่อยจุดเด่นของตัวเอง (3) การมีส่วนร่วมเพื่อความสำเร็จ บทที่ 7 พันธมิตรเพื่อการทำงาน สิ่งที่ดีที่สุดของความเป็นผู้นำ คือ การเป็นพันธมิตรที่รวมความไว้วางใจกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ผู้นำจะต้องคอยสลับตัวเองไปมาระหว่างการเป็นผู้สั่งการ ผู้สนับสนุนและผู้แนะนำ กุญแจสำคัญดอกแรกของการเป็นพันธมิตรเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ คือ การกำหนดเป้าหมาย การปฏิบัติงานได้ดีนั้นล้วนมาจากการเริ่มต้นด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน บทที่ 8 ทักษะสำคัญสำหรับการสร้างพันธมิตรในการทำงาน แนวคิด 3 ประการ นับเป็นทักษะสำคัญ มีดังนี้ (1) ก้าวสู่เป้าหมายในหนึ่งนาที ซึ่งมีหลักการสำคัญอยู่ที่ว่า ควรเก็บเป้าหมายเอาไว้ใกล้มือ ด้วยการกำหนดองค์ประกอบแบบ SMART คือ Specifid snd Measurable (แน่นอนและวัดได้) Motivating (มีแรงกระตุ้น) A Hainable (สามารถบรรลุได้) Relerart (มีความสัมพันธ์) Trackable and time – bormd (สามารถติดตามงานและทำเสร็จตามเวลาที่ผูกมัดอยู่ได้) (2) การชื่นชมในหนึ่งนาที ก่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ทุกรูปแบบ โดยแสดงความชื่นชมนับแต่เขาทำในสิ่งที่ถูกต้องและสำเร็จ อย่ารีรอเด็ดขาด (3) การตำหนิติเตียน VS การปรับเปลี่ยนทิศทางใหม่ในหนึ่งนาที กุญแจสำคัญในการตัดสินว่าควรเอ่ยคำตำหนิออกมากมีดังนี้ (ก) ตำหนิทันทีหลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น (ข) ต้องชี้เฉพาะเจาะจงลงไปว่าเขาทำผิดพลาดอย่างไร (ค) แบ่งปันความรู้สึกว่าไม่พอใจกับผลงาน (ง) ยืนยันความดีที่ผ่านมา แต่ผิดหวังในกรณีที่เขาทำงานล่าช้า บทที่ 9 ผู้นำทีมตามสถานการณ์ ทีมสามารถปฏิบัติงานได้ดีกว่าและเร็วกว่า การทำงานเป็นทีมมีอำนาจในการเพิ่มผลผลิต จึงถูกผลักดันให้กลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญที่นำมาซึ่งการบรรลุเป้าหมายในการทำงาน
กุญแจ 7 ดอก ที่เป็นลักษณะเฉพาะของทีมงานที่มีประสิทธิภาพ คือ PERFORM มีดังนี้ (1) P-Pueporse and Value จุดมุ่งหมายและค่านิยมในรูปแบบเดียวกันเปรียบเหมือนกับกาวที่ประสานทีมเข้า ไว้ด้วยกันและยังก่อให้เกิดรากฐานของทีมที่มีประสิทธภาพด้วย (2) E – Empowerment การมอบอำนาจในการทำงานสมาชิกของทีมทำงานที่มีประสิทธภาพจะมีความมั่นใจในความสามารถของทีมที่จะก้าวข้ามอุปสรรค โดยได้ร่วมแบ่งปันข้อมูล ความรู้และคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน (3) R – Relationships and Comnication ความสัมพันธ์และการสื่อสาร ทีมทำงานที่มีประสิทธิภาพจะต้องมีการสื่อสารที่เปิดกว้างพนักงานแต่ละคนจะต้องผูกพันกันทั้งในเชิงส่วนตัวและในเชิงของบทบาทหน้าที่ (4) F – Fexibility ความยืดหยุ่น สมาชิกในทีมทำงานที่มีประสิทธิภาพจะต้องมีความถ้อยทีถ้อยอาศัย และตระหนักอยู่เสมอว่า ทุกคนต่างก็มีความรับผิดชอบร่วมกันต่อทีม ไม่ว่าจะเป็นการทำงานและความเป็นผู้นำ (5) O - Optional Prodeectiuity ความสามารถในการผลิตที่เหมาะสม สมาชิกของทีมจะมีความภาคภูมิใจเมื่อเขาสามารถทำงานได้ทันกำหนดเวลา (6) R- Recognition and Apprcciation การยกย่องและชื่นชมทีมทำงานที่มีผลสัมฤทธิ์ดีเด่นจะรับคำชื่นชมและผลตอบรับในแง่บวกกลับมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของทีม ผู้นำทีมและในส่วนขององค์การ (7) M – Morale ขวัญกำลังใจ สมาชิกจะมีความกระตือรือร้นในงานของตัวเองและภาคภูมิใจต่อการได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม
บทที่ 10 การเป็นผู้นำในองค์กรที่มีประสิทธิภาพนั้นเป็นเรื่องของการจัดการเรื่องการเปลี่ยนแปลงมากกว่าจะให้ความสำคัญที่เป้าหมาย ซึ่งบ่อยครั้งคนที่ทำงานจะไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลง แต่ผู้นำจะต้องแจ้งให้รู้ถึงเหตุผลว่าองค์กรจะมุ่งไปทางไหนและจะจัดการกับความกังวลได้อย่างไรด้วย
บทที่ 11 กลยุทธ์สำหรับจัดการเปลี่ยนแปลง หากผู้นำไม่รู้จักสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาแล้วองค์กรก็จะกลายเป็นองค์กรล้าสมัยตกยุค สุดท้ายก็จะมีการตกงาน เหมือนกับที่เคยพูดกันไว้ว้า “ถ้าไม่ยอมเปลี่ยนก็เท่ากับคุณกำลังจะตาย” ส่วนที่ 4 เป็นผู้นำให้ถูกแบบ บทที่ 12 ผู้นำเพื่อการรับใช้ คือ ผู้นำที่มีบทบาทคอยช่วยให้ผู้อื่นทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย โดยให้คำปรึกษาเพื่อให้ทำงานได้ดีกว่าเดิมและดำเนินไป ตามครรลองของวิสัยทัศน์บนพื้นฐาน 5 ประการ คือ SERVE ดังนี้ (1) S – See the Futrese มองภาพอนาคต (2) E – Engace and Develop People เข้าร่วมและพัฒนาพนักงาน (3) R – Reinvent continuosly ขวนขวาย ใฝ่รู้ไม่หยุดยั้ง (4) V – Value Results and Relationships ให้ความสำคัญเรื่องผลลัพธ์และความสัมพันธ์ (5) E – Embody and values สร้างความเป็นรูปธรรมให้ค่านิยม บทที่ 13 กำหนดทัศนคติความเป็นผู้นำ ผู้นำจะต้องทำให้แน่ใจว่าทุกคนในองค์กรมุ่งหวังและเดินหน้าไปยังเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่ถูกต้อง ที่สำคัญผู้นำจะต้องจดจำ เอาไว้ว่ามุมมอง ความเป็นผู้นำไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างความกระจ่างทางความคิด เท่านั้น แต่ยังจะช่วยในการเตรียมพร้อมเพื่อสอนและถ่ายทอดให้แก่ผู้อื่นด้วย
หนังสือเล่มนี้โฆษณาหน้าปกว่า ยอดขายกว่า 18 ล้านเล่มเพียง 1 ปี มีคนอ่านมากมายนับล้าน ย่อมรับประกันว่าเป็นหนังสือที่คุณน่าจะเป็นเจ้าของ เพราะยกตัวอย่างที่น่าสนใจไว้ทุกบกทุกตอน |
||