ใช้หัวใจให้บริการ
ผู้เรียบเรียง : สเปคเตอร์, โรเบิร์ต | ||
สำนักพิมพ์ : บิสคิต | ||
จำนวนหน้า : 389 หน้า | ||
ราคา : 295 บาท | ||
ผู้สรุป : นิตยา ทัพศาสตร์ (กลส.) | ||
บทสรุป :
Nordstrom เป็นห้างสรรพสินค้าในอเมริกา ที่มีสินค้าหลากหลาย ตั้งแต่รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ รวมไปถึงเครื่องสำอาง และอื่นๆอีกมากมาย เป็นธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มคนที่มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป ทั้งชายและหญิง เอกลักษณ์ของ Nordstrom คือ วัฒนธรรมของพนักงานที่มีอำนาจในการตัดสินใจ มีแรงจูงใจในการทำงาน และมีวิญญาณของความเป็นเจ้าของกิจการ Nordstrom เป็นองค์กรที่มีความต้องการ ความคาดหวัง และกระตุ้นให้พนักงานแถวหน้าทุกคนที่ต้องติดต่อกับลูกค้าโดยตรง มีอิสระในการใช้ความคิดของตนเอง (แทนที่จะต้องรอคำสั่งจากเบื้องบน) และสามารถดำเนินการตามบุคลิกของร้านค้าที่แตกต่างกันตามทำเลที่ตั้งได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นพนักงานขายของ Nordstrom จึงต้องทำทุกอย่างที่พวกเขาสามารถทำได้ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะเดินออกจากร้านไปโดยได้รับความพึงพอใจสูงสุด และคิดถึง Nordstrom ไม่เฉพาะในแง่ของการซื้อสินค้าเท่านั้น แต่ลูกค้ายังสามารถนึกถึง Nordstrom ในการแก้ปัญหาให้พวกเขาได้อีกด้วย สิ่งที่ Nordstrom สามารถทำให้พนักงาน เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการบริการลูกค้าเหมือนกันหมดทุกคนคือการให้ข้อคิดที่ว่า “ในแต่ละวันทุกคนต้องตกอยู่ในฐานะลูกค้าเช่นกัน” พนักงานจึงสามารถแยกแยะความแตกต่างของการบริการที่ดีและไม่ดีได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องอ่านหนังสือ และตำราที่ไหนเลย เมื่อ “การบริการลูกค้า” เป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน ทำให้ Nordstrom กลายเป็นมาตรฐานในการประเมินตนเองสำหรับบริษัท องค์กรต่างๆ ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน นักแต่งหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้าและอาจารย์ผู้สอนวิชาธุรกิจในระดับปริญญาโทของมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆ ได้แนะนำให้ใช้วิธีการบริหารของ Nordstrom ในการดำเนินธุรกิจทุกประเภท วิธีการสู่ความเป็นเลิศในการให้บริการลูกค้าของ Nordstrom แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 สิ่งที่ผู้จัดการสามารถดำเนินการได้ เพื่อสร้างรูปแบบการบริการ Nordstrom ได้กล่าวถึงความสำคัญในการสร้าง การักษา และสนับสนุนวัฒนธรรมในการให้บริการขององค์กร ผู้จัดการจำเป็นต้องทราบ และชื่นชมประวัติความเป็นมา และวัฒนธรรมของบริษัท พร้อมทั้งต้องเผยแพร่ให้ทุกคนในองค์กรได้รับทราบ และวัฒนธรรมที่ Nordstrom ใช้ในส่วนนี้ได้แก่ 1. การนำเสนอประวัติของ Nordstrom พนักงานใหม่ทุกคนจะได้รับการปฐมนิเทศในห้องซึ่งเป็นห้องเดียวกันกับการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี การประชุมผู้บริหาร ภายในห้องดังกล่าวเต็มไปด้วยรูปภาพ ร้านค้า และสมาชิกในครอบครัวแต่ละรุ่นของตระกูล Nordstrom และเหตุการณ์อื่นเพื่อตอกย้ำถึงวัฒนธรรมดั้งเดิม เพื่อให้พนักงานเกิดความภาคภูมิใจ และซึมซับเอาวัฒนธรรมของบริษัทเข้าไปไว้เป็นส่วนหนึ่ง 2. การเผยแพร่วัฒนธรรมในการให้บริการ เนื่องจาก Nordstrom มีกฎเพียงข้อเดียวคือ “จงใช้วิจารณญาณที่ดีในทุกสถานการณ์” ดังนั้นการเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับการบริการลูกค้า และการทำงานเป็นทีมที่อยู่นอกเหนือหน้าที่ในการทำงาน เป็นสิ่งที่ชาว Nordstrom เรียกกันว่า “ความกล้า” (Heroics) ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจในการให้บริการแก่พนักงานทุกระดับ และเป็นการส่งต่อค่านิยมทางวัฒนธรรมขององค์กรให้พนักงานคนอื่นๆโดยการเขียน และเล่าประสบการณ์การบริการดังกล่าวให้พนักงานอื่นๆ ทราบ เช่น ตัวอย่างของความกล้าที่ยอดเยี่ยม ได้แก่ ลูกค้ารายหนึ่งต้องกางเกงสีม่วงยี่ห้อหนึ่งที่ Nordstrom กำลังลดราคาอยู่แต่ Nordstrom ไม่มีสี และขนาดที่ลูกค้าต้องการ พนักงานขายจึงรีบเบิกเงินกับผู้จัดการไปซื้อกางเกงสีและขนาดดังกล่าวที่ร้านคู่แข่งในราคาเต็ม และขายให้แก่ลูกค้าในราคาที่ Nordstrom กำลังลดราคาอยู่ แน่นอนสิ่งที่ Nordstrom ได้ไม่ใช่กำไรแต่เป็นความประทับใจ และความจงรักภักดีต่อ Nordstrom 3. การนำเสนอทางเลือกจำนวนมากให้แก่ลูกค้า Nordstrom ยึดมั่นในการมีสินค้าให้เหนือกว่าคู่แข่งเสมอ โดยเฉพาะในเรื่องของความครอบคลุม และครบครัน เพราะ Nordstrom ไม่ต้องการให้ลูกค้าผิดหวัง และสูญเสียลูกค้าให้แก่คู่แข่งไป ส่วนที่ 2 สิ่งที่หัวหน้างานสามารถดำเนินการได้ เพื่อสร้างรูปแบบบริการ ส่วนที่ 2 นี้ เน้นเกี่ยวกับผลกระทบของบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดกับพนักงานบริการลูกค้า โดยหน้าที่รับผิดชอบของบุคคลเหล่านี้ คือ การจ้างงานที่เหมาะสม การมอบอำนาจในการดำเนินการ การบริหารจัดการ การฝึกอบรม การกล่าวคำชมเชย การมอบรางวัล และการรักษาพนักงานที่ดีไว้ โดยมีสิ่งสำคัญเป็นอันดับหนึ่งของ Nordstrom คือ กลยุทธ์สำหรับการบริการลูกค้า ดังนี้ 1. บุคลิกภาพ ลักษณะ และรอยยิ้มที่ดีของบุคลากร (เป็นการลงทุนเพียงอย่างเดียวที่สามารถให้ผลลัพธ์มากที่สุด) 2. ผู้เชี่ยวชาญของบริษัท และพนักงานที่ตรงต่อเวลา 3. การให้อำนาจแก่พนักงาน สำหรับการตัดสินใจที่ดี เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า 4. การให้ความสำคัญแก่พนักงานในรูปแบบพีรามิดหัวกลับ (พนักงานระดับล่างที่มีจำนวนมากจะอยู่ด้านบน ผู้บริหารหรือคณะกรรมการผู้บริหารจะอยู่ข้างล่าง) 5. การนำบทเรียนของบริษัทอื่นๆ ไปใช้ 6. การยกเลิกกฎเกณฑ์ เพื่อทำลายอุปสรรคในการให้บริการลูกค้าที่เป็นเลิศ 7. การได้รับการยอมรับ การแข่งขัน และคำชมเชย และโครงสร้างการให้ส่วนแบ่งทางการขายให้แก่พนักงาน 8. การขึ้นสู่ตำแหน่งด้วนวัฒนธรรมที่ว่า ไม่มีใครสามารถบริหารใครได้ถ้าพวกเขาไม่ได้ดำเนินงานอยู่ในหน้าที่ของบุคคลที่พวกเขาต้องบริหารมาก่อน ดังนั้นพนักงานในแต่ละแผนกจะทุ่มเทการทำงานในหน้าที่ตนเองอย่างสุดความสามารถ เพื่อการก้าวสู่ตำแหน่งผู้จัดการในแต่ละแผนกนั่นเอง ส่วนที่ 3 สิ่งที่พนักงานสามารถดำเนินการได้เพื่อสร้างรูปแบบบริการ ในส่วนนี้จะเป็นส่วนของพนักงานที่ต้องติดต่อกับลูกค้าโดยตรงในองค์กร โดยพนักงานเหล่านี้จะต้องมีความเชื่อมั่นในวัฒนธรรม และเข้าใจบทบาทของตนเองในการรักษา และสนับสนุนวัฒนธรรมดังกล่าวผ่านการปฏิบัติงานเป็นอย่างดี และต้องได้รับอำนาจอย่างเพียงพอในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า หาวิธีการแสดงความเอาใจใส่ต่อลูกค้าได้อย่างเป็นอิสระ ลงมือดำเนินการทุกอย่างได้ตามความจำเป็น ต้องมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการที่องค์กรของคุณเสนอขายให้กับลูกค้า อีกทั้งต้องสามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ เนื่องจากวัฒนธรรมจะเกิดข้นและดำรงอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่มีการทำงานเป็นทีมเท่านั้น ดังนั้น ในส่วนนี้ต้องมีวัฒนธรรมที่สำคัญ สรุปได้ดังนี้ 1. การสร้างความสัมพันธ์ นอกเหนือจากการให้บริการด้านสินค้าและบริการ แล้วคุณต้องสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เพราะสินค้าและบริการของคุณอาจจะคล้ายคลึงหรือเหมือนกับสินค้าคู่แข่ง แต่สิ่งที่จะทำให้คุณแตกต่างจากคู่แข่ง ก็คือความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การรู้จักกับสิ่งเล็กๆน้อยๆตั้งแต่การจดจำชื่อลูกค้า จดจำสินค้าที่ลูกค้าซื้อไปครั้งล่าสุดได้เพื่อนำมาใช้ในการให้คำแนะนำสำหรับการซื้อสินค้าในครั้งถัดไป 2. การฟังลูกค้า เพื่อต้องการให้รู้ว่าลูกค้ามีปัญหาอะไร และสิ่งที่ลูกค้าต้องการแท้จริงคืออะไร ไม่ใช่การ ขาย หรือยัดเยียดในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ให้แก่ลูกค้า 3. การให้ในสิ่งที่นอกเหนือจากการขาย บางครั้งลูกค้าอาจมีปัญหามากกว่าความต้องการสินค้า และบริการที่เรามีอยู่ ถ้าเราสามารถตอบสนองได้ จะทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ ประทับใจ และมักจะนึกถึงเราเสมอเมื่อต้องการสินค้า และบริการนั้นๆ 4. ความซื่อสัตย์ และความจริงใจ โดยการให้คำแนะนำ และบริการอย่างถูกต้อง และลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด 5. การขายเป็นงานที่ไม่มีจุดสิ้นสุด ต้องพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง จนมีคำกล่าวว่า “พนักงานขาย – ด้วยความกระตือรือร้น = เสมียนคนหนึ่งเท่านั่น” จากวัฒนธรรมทั้ง 3 ส่วนของ Nordstrom คุณจะไม่สามารถปฏิบัติ และบรรลุผลได้เลย ถ้าทุกวัฒนธรรมไม่ได้นำมาปฏิบัติด้วยหัวใจ ทำไปเพียงแค่หน้าที่ และความจำเป็น ดังนั้นการให้บริการจะงดงาม น่าประทับใจ และประสบผลสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อใช้หัวใจให้บริการนั่นเอง |
||