เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » สรุปหนังสือ » รายละเอียด

ฉลาดรู้ทางการเงิน

   
ผู้เรียบเรียง : Karen Berman, Joe Knight และ John Case คมสัน ขจรชีพพันธุ์งาม และวัรวุธ มาฆะศิรานนท์ 
สำนักพิมพ์ : เอ็กซ์เปอร์เน็ท
จำนวนหน้า : 353 หน้า
ราคา : 310 บาท
ผู้สรุป : สุจินต์ ชุ่มใจหาญ ฝรธ.  
   
   
บทสรุป :

 

        ความฉลาดรู้ทางการเงิน  เป็นทักษะที่ต้องเรียนรู้หรือสามารถเรียนรู้ได้จากการอ่าน  ฝึกฝน และประยุกต์ใช้อย่างมีประสิทธิผล  โดยมีพื้นฐาน  4  ด้าน  ประกอบด้วย  การเข้าใจในหลักการพื้นฐาน  การเข้าใจในเรื่องศิลปะในทางการเงิน  การเข้าใจในเรื่องการวิเคราะห์  และการเข้าใจในภาพรวม

                                การเข้าใจในพื้นฐานทั้ง  4  เริ่มด้วยการรู้จักภาษาทางการเงิน  นับตั้งแต่การดูตัวเลข  วิธีการนำตัวเลขมาใส่ตาราง  การนำมาวิเคราะห์ และทำรายงานต่าง ๆ  และการใช้วิจารณญาณที่นักบัญชีหรือนักการเงินได้พยายามตกแต่ง หรือบิดตัวเลขให้ไปทิศทางใดทางหนึ่ง  เพราะการเข้าใจสิ่งเหล่านี้จะเป็นสื่อช่วยการตัดสินใจเกี่ยวกับงบประมาณ  รายจ่ายในการลงทุน  การสรรหาพนักงาน  รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย  ตัวอย่าง  ภาษาทางการเงิน  อาทิเช่น  การรับรู้รายได้,  งบกระแสเงินสด  ต้นทุน, งบกำไรขาดทุน, รายจ่ายในการลงทุน, ค่าเสื่อมราคา, มูลค่าตามเกณฑ์สิทธิ, สินค้าคงคลัง, มูลค่าตามการปันส่วน,  การคำนวณอัตราส่วนทางการเงิน,  ผลตอบแทนต่อการลงทุน, ค่าความนิยม  งบดุล, เกณฑ์เงินสด  เป็นต้น

                                อุปสรรคขัดขวางความฉลาดรู้ทางการเงิน

                อุปสรรคแรก        การกลัวคณิตศาสตร์  จงอย่ากลัว  เพราะงานการเงินใช้เพียงการบวก  ลบ  เท่านั้น  จะใช้คูณหารในกรณีพิเศษจริง ๆ 

                อุปสรรคที่สอง     ฝ่ายบัญชีการเงินมักยึดข้อมูลทุกอย่างไว้แน่น  ให้สังเกตว่าเขาเหล่านั้นยึดติดกับแนวคิดเก่า ๆ หรือไม่  คือคิดว่าตัวเองเป็นผู้เก็บรักษาและควบคุมตัวเลข  มีความลังเลในการให้ความร่วมมือในกระบวนการสื่อสารร่วมกัน  เช่นนี้ต้องให้นำตัวเลขมาพูดคุยในการประชุมผู้บริหาร  และตั้งคำถามเกี่ยวกับข้อสมมติ หรือประมาณการเกี่ยวกับตัวเลขนั้น  ซึ่งอาจทำให้ฝ่ายบัญชีการเงินรู้สึกประหลาดใจและชอบใจก็ได้

                อุปสรรคที่สาม     การมีเจ้านายที่ไม่สนใจรู้เกี่ยวกับตัวเลขใด ๆ  เท่ากับเจ้านาย คือ เหยื่อของตัวเลข  เพราะเขาอาจไม่รู้เรื่องเกี่ยวข้อสมมติ  การประมาณการ  และการให้ผลลัพธ์  คำแนะนำ คือ ให้เดินหน้าต่อไปด้วยการหมั่นป้อนคำถาม  แม้จะเป็นการเริ่มต้นโดยการรับความเสี่ยง  ทำในสิ่งที่ยังไม่มีใครเห็นคุณค่า  แต่แท้ที่จริงแล้วคำถามเหล่านั้น จะส่งผลดีต่อคนในองค์กรได้มีความรู้ทางการเงินมากยิ่งขึ้นในที่สุด

                อุปสรรคที่สี่          การอ้างว่าไม่มีเวลาศึกษา  ข้อแนะนำว่าให้เจียดเวลาอ่านหนังสือบ้าง  ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงก็จะมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเงินมากกว่าที่เคยมีมาในอดีต

                                ความฉลาดรู้ทางการเงินทั้งในระดับผู้บริหารและระดับผู้ปฏิบัติงานของกิจการ  สามารถดึงให้ผลประกอบการดีขึ้น  งานวิจัยของศูนย์รวมองค์กรที่มีประสิทธิผลได้ใช้ตัววัด   การมีส่วนร่วมของพนักงานไว้สองตัวที่น่าสนใจ  ได้แก่  "การแบ่งปันข้อมูลเรื่องผลประกอบการ  แผนงานและเป้าหมายของธุรกิจ"  กับ  "ทักษะในการทำความเข้าใจในธุรกิจ"  ผลที่ได้รับตัววัดทั้งสองต่างมีความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับการเพิ่มผลผลิต  ความพึงพอใจของลูกค้า  คุณภาพสินค้าหรือบริการ  ความรวดเร็ว  ความสามารถในการทำกำไร  ความสามารถในการแข่งขัน  และความพึงพอใจของพนักงาน  ยิ่งองค์กรฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจด้านการเงินมากขึ้น  องค์กรนั้นจะยิ่งเป็นองค์กรที่ดีขึ้น  เพราะเมื่อคนเข้าใจในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น  ระดับความเชื่อมั่นในองค์กรก็จะสูงขึ้น  อัตราการลาออกก็ลดลง แรงจูงใจความผูกพันก็เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบเชิงบวกไปสู่ผลประกอบการที่ดีขึ้นด้วย

                                การอบรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ทำแค่อบรมหลักสูตรเดียว หรือมอบหนังสือคู่มือให้ไปอ่านเอง  โดยหวังว่าทุกคนจะมีความรู้ชัดแจ้ง  ไม่สามารถไปสู่เป้าหมายองค์กรฉลาดรู้ทางการเงินได้  ต้องใช้กลยุทธ์ผูกมัดการเรียนรู้  ต้องมีการย้ำเน้นสาระสำคัญแล้วนำมาทบทวน  สร้างให้เป็นวัฒนธรรมขององค์กร  เช่น  อบรมซ้ำ   มีการประชุมเรื่องตัวเลขเป็นรายสัปดาห์  ทำ  Scoreboard  แสดงผล  สร้างเครื่องมือ  Money  Map  ให้คำนวณด้วยตัวเอง  พูดคุยถึงผลกระทบของตัวเลขที่เกิดขึ้น  รวมทั้งให้มีส่วนร่วมอธิบายความหมายของตัวเลขที่คำนวณด้วย

                                อย่างไรก็ดี  นอกจากจะมีการส่งเสริมให้มีความรู้ความเข้าใจทางการเงินแล้ว  ยังต้องยืนหยัดบนพื้นฐานสำคัญที่สุด คือ  ความโปร่งใสทางการเงิน  มีหลายบริษัทที่ตกแต่งตัวเลขทางบัญชีทำให้กำไร ดูดีกว่าความจริงจนดูเหมือนว่าองค์กรกำลังเติบโต  หุ้นของบริษัทกำลังมีค่าสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว   บริษัทมีเงินสำรองเลี้ยงชีพตามแผนการเกษียณอายุให้แก่พนักงานจำนวนมาก  มีโอกาสมากมายในความก้าวหน้าในอนาคต  ในชั่วพริบตาเดียวทุกอย่างก็พังทลาย  เป็นเพราะพนักงานไม่ได้เรียนรู้อะไรมากกว่าในห้องอบรม  ไม่ได้เห็นตัวเลขจริงและไม่ได้มีส่วนร่วมวิเคราะห์ใด ๆ

                                หนังสือเล่มนี้คาดหวังจะช่วยเพิ่มพูนความฉลาดรู้ทางการเงิน  ช่วยผู้จัดการให้ใช้ตัวเลขเป็นเครื่องมือให้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น  พนักงานก็จะเต็มใจที่จะปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์  การรู้จักตั้งคำถามจะได้รับการเปิดเผยข้อมูลตัวเลข และอธิบายงบการเงินอย่างไม่คลุมเครือ  รวมทั้งการรู้สึกสนใจที่จะทำความเข้าใจกับมุมมองใหม่ของธุรกิจด้วย