ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 57 อยู่ได้ด้วยระบบสหกรณ์
ข่าววันที่ : 3 ก.พ. 2558
Share

tmp_20150302110147_1.png

วันที่ ปรับปรุง 3 ก.พ. 2558

                หน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ว่าถูกจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าเฝ้าระวัง เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2557/58 ลดลงเนื่องจากปีที่ผ่านมาราคาอ่อนตัว เกษตรกรจึงปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปปลูกพืชที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า

                สำหรับผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เฉลี่ยต่อไร่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ปริมาณน้ำเพียงพอ ส่งผลให้ผลผลิตรวมเพิ่มขึ้น ส่วนการส่งออก ปี 2557 ลดลงเนื่องจากในปี 2556 มีการผลักดันการส่งออกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามมาตรการแทรกแซงตลาด และคาดว่าราคาเกษตรกรขายได้จะปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากการผลิตลดลงและผู้ประกอบการยังคงมีความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

                อย่างไรก็ตามในการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกรนอกจากผู้รับซื้อทั่วไปแล้วก็ยังมีสหกรณ์เข้ามาดำเนินการด้วย ซึ่งสหกรณ์ทั่วประเทศที่รับซื้อผลผลิตข้าวโพด มีทั้งหมด 25 จังหวัด จำนวน 115 สหกรณ์ ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือ 15 จังหวัด 92 สหกรณ์ คิดเป็น 80%ของจำนวนสหกรณ์รองลงมาอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ7 จังหวัด 19 สหกรณ์ ภาคตะวันตก 2 จังหวัด 3 สหกรณ์ และภาคกลาง 1 จังหวัด 1 สหกรณ์ ตามลำดับ

                โดยปริมาณการรับซื้อผลผลิตข้าว โพดของสหกรณ์ทั่วประเทศ ณ 30 ก.ย.2557 มีมูลค่าการรับซื้อรวม เป็นจำนวนเงิน 4,879.56 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลผลิตจากภาคเหนือมูลค่าการรับซื้อ 3,291.60 ล้านบาท คิดเป็น 67.46% ของมูลค่าการรับซื้อผลผลิตทั้งหมด รองลงมาเป็นผลผลิตจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือมูลค่าการรับซื้อ 1,453.20 ล้านบาท, ภาคตะวันตกมูลค่าการรับซื้อ 111.71 ล้านบาท และภาคกลางมูลค่าการรับซื้อ 23.04 ล้านบาท ตามลำดับ

                ผลการดำเนินงานรวมของสหกรณ์มีรายได้รวม 20,262.66 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวม 19,896.33 ล้านบาท ก่อให้เกิดผลกำไรสุทธิ 366.33 ล้านบาท ส่วนใหญ่ประสบผลสำเร็จมีผลกำไร จำนวน 96 สหกรณ์ คิดเป็น 83.48% ของจำนวน 115 สหกรณ์

                ส่วนผลการจัดชั้นคุณภาพสหกรณ์ทั่วประเทศที่รับซื้อข้าวโพดส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี 72 สหกรณ์ รองลงมาอยู่ในระดับดีมาก 32 สหกรณ์ ระดับพอใช้ 8 สหกรณ์ และต้องปรับปรุง 1 สหกรณ์ ส่วนที่เหลือ 2 สหกรณ์ไม่สามารถจัดชั้นคุณภาพได้ เนื่องจากไม่มีการควบคุมภายใน

                จากภาพรวมของสหกรณ์ทั่วประเทศที่รับซื้อข้าวโพด ปี 2557 ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ข้าวโพด ปลูกมากที่สุดในภาคเหนือ ส่งผลให้มูลค่าการรับซื้อผลผลิตของภาคเหนือ เกินครึ่งของมูลค่าการรับซื้อผลผลิตรวมของสหกรณ์ทั่วประเทศ ผลการดำเนินงานรวมของสหกรณ์ก็ยังคงมีกำไร และผลการจัดชั้นคุณภาพสหกรณ์ส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีด้วยดำเนินการโดยใช้หลักธรรมาภิบาล สมาชิกส่วนใหญ่ดำเนินชีวิตโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีการจัดทำบัญชีครัวเรือน และต้นทุนอาชีพทำให้มีภูมิคุ้มกันในการดำรงชีวิต ทำให้ขบวนการสหกรณ์มีความมั่นคงยังผลต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ให้ก้าวเดินเพื่อดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณภาพ อย่างกรณีของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ฤดูการผลิตปี 2557 ที่ผ่านมา หากขาดซึ่งระบบการตลาดของสหกรณ์ เกษตรกรคงจะมีรายได้น้อยลง เพราะผู้ซื้อที่เป็นเอกชนส่วนใหญ่จะลดปริมาณการรับซื้อลง

                ที่สำคัญหากสหกรณ์มีกำไร สมาชิกสหกรณ์ ซึ่งก็คือ เกษตรกรที่เป็นผู้ผลิตด้วยนั้นก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเงินปันผลในรอบปีอีกด้วย


ขอบคุณข้อมูลและภาพข่าวจาก : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์