นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ว่า ได้ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 พบว่ายังน่าเป็นห่วงกลุ่มเกษตรกร เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรยังอ่อนตัว รองนายกฯ จึงมอบหมายให้กระทรวงการคลังมีมาตรการช่วย 2 เรื่อง คือ ลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ โดยจะเสนอมาตรการต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า

          "ในสัปดาห์นี้จะหารือกับสำนักงบประมาณ ว่าจะสามารถจัดงบประมาณจากส่วนไหน จำนวนเท่าไหร่ มาให้กับ 2 มาตรการที่จะเสนอ" รมว.คลัง กล่าว

          สำหรับมาตรการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ได้ส่งเรื่องให้รองนายกฯ พิจารณาแล้ว คาดว่าอยู่ระหว่างการส่งหนังสือเวียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา

          รองนายกฯ ยังเร่งให้คลังและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เรียกประชุมรัฐวิสาหกิจขอให้ทุกแห่ง ขับเคลื่อนการลงทุน นำโครงการที่อยู่ในแผนที่จะลงทุนอยู่แล้ว ส่วนไหนเริ่มดำเนินการได้ก็ให้ทำก่อน เพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจหมุนไปได้ในช่วงที่การส่งออกและการลงทุนเอกชนยังขยับได้ไม่ดี

          นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า  กำลังตรวจสอบข้อมูลผู้มาขึ้นทะเบียนคนจนกว่า 8.3 ล้านราย โดยจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิรับสวัสดิการจากรัฐ ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ เฉพาะที่เข้าข่ายตามเงื่อนไข ส่วนผู้ที่ไม่ลงทะเบียนต้องไปรอรับสวัสดิการรัฐรอบใหม่ในปีหน้า

          นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เตรียมออกมาตรการเพิ่มเติมจากการมอบเงินช่วยเหลือต้นทุนการผลิตไร่ละ 1,000 บาท คือ โครงการสินเชื่อรอการขายข้าวเพื่อพยุงราคาข้าว ซึ่งจะเพิ่มวงเงินค่าฝากข้าวในยุ้งฉางตามโครงการดังกล่าวให้กับเกษตรกรตันละ 1,500 บาท จากเดิม ตันละ 1,000 บาท คาดว่าจะใช้ในการดำเนินการรวม 2.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินฝากเก็บข้าวในยุ้งฉาง 1,500 ล้านบาท และวงเงินสินเชื่อการรอขายข้าว 2.34 หมื่นล้านบาท ในเบื้องต้นตั้งเป้ารับข้าวเข้าโครงการ 1 ล้านตัน เชื่อว่ามาตรการนี้จะดึงราคาข้าวให้สูงขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 20 กันยายน 2559