อุตฯเล็งปรับลดวงเงินกู้ธ.ก.ส. จ่ายชดเชยค่าอ้อยให้ชาวไร่
ข่าววันที่ : 14 ก.ย. 2558
Share

tmp_20151409094654_1.jpg

วันที่ ปรับปรุง 14 ก.ย. 2558

          คณะกรรมการกองทุนอ้อยและ น้ำตาลทราย (กท.) จะไม่ต้องขอกู้เงินจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในวงเงิน 15,000 ล้านบาท ตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจจะขอกู้ตามเดิม แต่วงเงินกู้สามารถปรับลดลงได้ เพื่อนำมาจ่ายชดเชยค่าอ้อยให้กับชาวไร่อ้อย เนื่องจากในปี 2558 นี้ต้นทุนการเพาะปลูกชาวไร่อ้อยอยู่ที่ 1,200 บาทต่อตัน แต่ราคาอ้อยขั้นต้นที่คำนวณล่าสุดอยู่ที่ 900 บาทต่อตัน ทำให้ต้องขอกู้เงินจาก ธ.ก.ส. มาจ่ายชดเชยให้กับชาวไร่อ้อย

          "วงเงินกู้ที่จะนำมาจ่ายชดเชยค่าอ้อยให้กับชาวไร่อ้อยจะมีจำนวนวงเงินเท่าใดนั้น ในเรื่องนี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) และคณะทำงาน ที่เกี่ยวข้อง ไปร่วมกันดำเนินการเพื่อหาข้อสรุป ซึ่งสาเหตุที่วงเงินกู้ดังกล่าวอาจมีการปรับลดลงมาได้นั้น เป็นเพราะในปี 2558 นี้ได้รับปัจจัยบวกจากกรณีที่เงินบาทอ่อนค่าลง ส่งผลทำให้รายได้จากการส่งออกน้ำตาลเพิ่มขึ้น และยังมีรายได้จากการขายกากน้ำตาล หรือ โมลาส เข้ามาในระบบแบ่งปันผลประโยชน์อ้อยและน้ำตาลทราย 70/30 เพิ่มขึ้นอีกด้วย" นางอรรชกา กล่าว

          สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำตาลในตลาดโลกล่าสุดพบว่าอยู่ที่ระดับประมาณ 10-11 เซ็นต์ต่อปอนด์ จากที่ก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับประมาณ 15 เซ็นต์ ต่อปอนด์ จึงทำให้ราคาอ้อยขั้นต้นที่ต้องจ่ายให้กับชาวไร่อ้อยลดลง ขณะที่การที่จะสามารถลดวงเงินกู้ จาก ธ.ก.ส.ลงได้ระดับหนึ่งนั้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ของ กท. เพราะเงินสดหมุนเวียนของ กท.ที่มีอยู่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ยังมีภาระที่จะต้องนำไปใช้จ่ายในเรื่องของค่าบริหารของ กท.เอง และสนับสนุนวงเงินช่วยเหลือให้ชาวไร่อ้อยนำไปขุดบ่อน้ำบาดาล เพื่อการเพาะปลูกอ้อย รวมถึงการสนับสนุนการจัดซื้อรถตัดอ้อย เป็นต้น

 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 14 กันยายน 2558