การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
ให้คะแนนเนื้อหา
คะแนนเฉลี่ย 0.0 จำนวนผู้โหวด 0วันที่ ปรับปรุง 17 ธ.ค. 2562
ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
Facebook : drdancando
"การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเป็นสิ่งที่องค์กรธุรกิจไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การเปลี่ยนผ่านนี้ไม่ใช่เพียงการนำเทคโนโลยีมาใช้ ผู้นำองค์กรต้องเข้าใจเงื่อนไขความสำเร็จของการเปลี่ยนผ่านฯ คือ การเปลี่ยน คน ระบบ และบริบท อย่างสอดประสานกัน"
เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญไปบรรยาย เรื่อง "Digital Transformation and the Future Enterprise" ในการประชุม IDC Digital Transformation Summit 2019 การประชุมนี้ให้น้ำหนักกับประเด็นที่กำลังเป็นกระแสขององค์กรทั่วโลก คือ การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล หรือ Digital Transformation เนื่องจากการปฏิวัติทางเทคโนโลยี นำโดยเทคโนโลยีดิจิทัล กำลังสร้างความปั่นป่วนในอุตสาหกรรมต่างๆ
อย่างไรก็ดี ผลกระทบของเทคโนโลยีใหม่ในระดับองค์กร อาจเป็นได้ 2 ทาง คือ เป็นทั้งโอกาสและภัยคุกคาม ขึ้นอยู่กับความสามารถขององค์กร ในการใช้ประโยชน์และป้องกันผลกระทบเชิงลบจากเทคโนโลยี ด้วยเหตุนี้การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กรธุรกิจ จึงเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะช่วยเพิ่มผลิตภาพและคุณค่าขององค์กร และลดความสูญเสียจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี คำถามคือ องค์กรต่างๆ จะเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลให้ประสบความสำเร็จและยั่งยืนได้อย่างไร?
ในความเห็นของผม มีแนวคิดหนึ่งที่ผมได้เขียนอยู่ในหนังสือ ปฏิรูปครบวงจร : สู่ยุคเรืองรองของเมืองไทย เมื่อปี 2540 ซึ่งผมเรียกว่า "ไตรอารยสภาพ" แนวคิดนี้ระบุว่า "การเปลี่ยนแปลงใดๆ ให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ต้องเปลี่ยนแปลงครบทุกองค์ประกอบอย่างสอดประสานกัน คือ คน ระบบ และบริบท" เช่นเดียวกับ การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ต้องเปลี่ยนครบทั้ง คน ระบบ และบริบท
คน
กลุ่มคนที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล คือ ผู้นำและผู้บริหารองค์กร ซึ่งต้องมีสิ่งที่ผมเรียกว่า "ไตรภาวะ" ประกอบด้วย ภาวะการนำ (Leadership) ภาวะการบริหาร (Management) และภาวะคุณธรรม (Morality) จึงจะสามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้สำเร็จอย่างยั่งยืนได้
ภาวะการนำมีความจำเป็น เพราะการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลมีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายและกลยุทธ์ขององค์กร รวมถึงการออกแบบองค์กร จึงจำเป็นต้องเกิดจากเจตจำนงของผู้นำองค์กรเช่นเดียวกับภาวะการบริหารที่มีความจำเป็น เพราะการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล คือ การบริหารการเปลี่ยนแปลง (change management) ซึ่งต้องอาศัยผู้นำที่มีความสามารถในการจัดการคนและทรัพยากรต่างๆ ให้ปฏิบัติภารกิจจนบรรลุเป้าหมาย ส่วนภาวะคุณธรรม หมายถึง การมีหลักคุณงามความดีเป็นฐาน ในการเทคโนโลยีมาใช้เชิงบวกหรือเชิงสร้างสรรค์
ระบบ
การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ไม่ใช่เพียงการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เท่านั้น แต่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบขององค์กร เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม เนื่องจากการปฏิวัติทางเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งคุณค่าและโมเดลของการทำธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ ช่องทางและวิธีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่น และโครงสร้างของอุตสาหกรรม
การเปลี่ยนแปลงระบบขององค์กรให้สำเร็จได้นั้น จึงต้องทำครบทุกองค์ประกอบของระบบ ตามแนวคิดของผมในเรื่อง "7 องค์ประกอบของระบบ" ประกอบด้วย โครงสร้าง กระบวนการ กฎ/ระเบียบ/กติกา ค่านิยม/ปทัสถาน วัฒนธรรม ประเพณี และความเป็นสถาบัน ซึ่งผมได้วิเคราะห์แนวโน้มของระบบที่เหมาะสมกับยุคดิจิทัล ดังต่อไปนี้
โครงสร้างองค์กรมีลำดับขั้นตอนสั้นลงและกระจายอำนาจมากขึ้น เพื่อให้องค์กรยืดหยุ่น คล่องตัว ตอบสนองลูกค้าได้เร็ว รวมทั้งมีลักษณะเป็นเครือข่าย เพราะองค์กรจะมีการใช้ทรัพยากรร่วมกับองค์กรอื่น และร่วมมือกับองค์กรอื่นในการสร้างนวัตกรรมมากขึ้น
กระบวนการที่ไม่เป็นเส้นตรงหรือตายตัว เปิดโอกาสให้ลองผิดลองถูก และยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ เพราะกิจกรรมสำคัญขององค์กรในอนาคต คือ การสร้างนวัตกรรมและการตอบสนองความต้องการที่เฉพาะตัว ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้กระบวนการที่ตายตัว และต้องใช้ปัจจัยนำเข้าจากภายนอกองค์กรมากขึ้น
กฎ/ระเบียบ/กติกา ต้องเอื้อต่อการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบอื่นๆ ของระบบ เช่น การระบุเป้าหมาย กลยุทธ์ และวิสัยทัศน์ของการเปลี่ยนผ่านฯ อย่างเป็นทางการ การกำหนดกลไกและเงื่อนไขการประเมินและให้ผลตอบแทน โดยเฉพาะแรงงานที่ทำงานหลายบริษัทในเวลาเดียวกัน หรือแรงงานที่ทำงานผ่านระบบออนไลน์ จะประเมินผลและจ่ายค่าตอบแทนอย่างไร เป็นต้น
ค่านิยม/ปทัสถานผมมีแนวคิดว่า Techies กับ Fuzzies ต้องไปด้วยกัน กล่าวคือ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางปรัชญาที่สนับสนุนรองรับ เช่น การให้คุณค่ากับสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ (ข้อมูล ความรู้ แนวคิดใหม่) การเรียนรู้จากคนรุ่นใหม่ การมองว่าเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องยาก และการเปลี่ยนมุมมองว่า พนักงานเป็นคนเลือกองค์กร ไม่ใช่องค์กรเลือกพนักงาน เป็นต้น
วัฒนธรรมที่จำเป็นต่อองค์กรธุรกิจยุคดิจิทัล อาทิ วัฒนธรรมการทำงานข้ามรุ่น ข้ามวัฒนธรรม ข้ามสายงาน และข้ามองค์กร การเรียนรู้ตลอดชีวิต การแบ่งปันความรู้ และความกล้าคิด กล้าทำ กล้าลองผิดลองถูก ไม่กลัวความล้มเหลว
ประเพณีที่ควรสร้างขึ้นในองค์กรแห่งอนาคต เช่น การจัดให้มีกลไกและช่องทางแบ่งปันความรู้โดยเฉพาะความรู้ที่ฝังในตัวคน (tacit knowledge) การจัดให้มีเวทีให้พนักงานเสนอแนะแนวคิดและข้อเสนอแนะเชิงนวัตกรรม การสร้างรางวัลเพื่อจูงใจให้คนคิดสร้างสรรค์ เป็นต้น
สถาบัน หรือสิ่งที่ทำให้องค์กรต้องการคงอยู่ข้ามกาลเวลา โดยไม่ขึ้นกับบุคคล เช่น การสร้างประสบการณ์ของพนักงาน ทั้งการได้ทำงานที่มีความหมายและท้าทาย การได้พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ การสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต ฯลฯ การให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ไม่ว่าจะเป็นการรับฟังความเห็นของลูกค้า การเปิดโอกาสให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการสร้างผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
บริบท
องค์กรควรดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างไรนั้น จำเป็นต้องพิจารณาบริบทขององค์กรด้วย ซึ่งมี 2 รูปแบบ คือ บริบทที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ (Context Taker) เช่น การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในกิจกรรมที่กลายเป็นมาตรฐานทั่วไปของธุรกิจ การใช้เทคโนโลยีในกิจกรรมเหล่านี้ องค์กรธุรกิจไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เป็นต้น บริบทที่เปลี่ยนแปลงได้ (Context Maker) องค์กรสามารถเปลี่ยนบริบทให้สนับสนุนคนและระบบในองค์กรได้ เช่น บริษัทใหญ่อาจบังคับให้ซัพพลายเออร์เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับระบบของบริษัทใหญ่ได้ เป็นต้น
การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเป็นสิ่งที่องค์กรธุรกิจไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การเปลี่ยนผ่านนี้ไม่ใช่เพียงการนำเทคโนโลยีมาใช้ ผู้นำองค์กรต้องเข้าใจเงื่อนไขความสำเร็จของการเปลี่ยนผ่านฯ คือ การเปลี่ยน คน ระบบ และบริบท อย่างสอดประสานกัน เพื่อนำองค์กรเข้าสู่ยุคใหม่ที่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 17 ธ.ค. 2562