สอน. อุ้มชาวไร่อ้อยต่อยอดผลิตสินค้าชีวภาพ
ให้คะแนนเนื้อหา
คะแนนเฉลี่ย 0.0 จำนวนผู้โหวด 0วันที่ ปรับปรุง 7 ต.ค. 2562
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 ณ สมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ว่า ที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมได้รับทราบและเข้าใจปัญหาของชาวไร่อ้อยเป็นอย่างดี จึงได้ดำเนินโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อซื้อปัจจัยการผลิต จำนวน 50 บาทต่อตันอ้อย รายละไม่เกิน 5,000 ตัน ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2561 ในวงเงินงบประมาณ 6,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ได้รับรายงานจากเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าได้จ่ายเงินงวดที่ 1 ไปแล้ว จำนวน 149,150 ราย วงเงิน 3,203 ล้านบาท และงวด ที่ 2 ทางสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้สั่งจ่ายเช็คให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โอนเข้าบัญชีชาวไร่อ้อยอีกจำนวน 160,281 ราย วงเงิน 3,293 ล้านบาท เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา สำหรับมาตรการช่วยเหลือในปี 2563 อยู่ระหว่างการพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม อาจจะพิจารณาในหลักการเดิมที่เคยให้ความช่วยเหลือในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ได้ดำเนินนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า เศรษฐกิจฐานชีวภาพ หรือ Bio Economy ขยายต่อห่วงโซ่มูลค่า (Value Chain) ของสินค้าเกษตร เพื่อแก้ปัญหาปริมาณอ้อยและน้ำตาลล้นตลาดและราคาตกต่ำ โดยการต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง เช่น ผลิตภัณฑ์กลุ่มพลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) สารให้ความหวานที่มีแคลอรี่ต่ำอย่างสารซอร์บิทอล (Sorbitol) และสารไอโซมอล์ท (Isomalt) เป็นต้น รวมถึงการวิจัยจุลินทรีย์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการเกษตรให้มีมูลค่า สูงขึ้น และเมื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยีด้านอื่นๆ จะทำให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ที่ใช้พืชเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอย่างอุตสาหกรรมยา อาหารเสริม และเครื่องสำอาง
ทั้งนี้ยังมอบนโยบายให้สอน. มุ่งเน้นส่งเสริมการสร้างทายาทชาวไร่อ้อยรุ่นใหม่ ต่อยอดการทำไร่อ้อย ให้ไปสู่สมาร์ทฟาร์ม หรือไร่อ้อย 4.0 ด้วย
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 7 ต.ค. 2562