ธ.ก.ส.โชว์ผลงานปี 2561 ปล่ยอกู้เกษตร 6.7 แสนล้าน
ให้คะแนนเนื้อหา
คะแนนเฉลี่ย 0.0 จำนวนผู้โหวด 0วันที่ ปรับปรุง 13 พ.ค. 2562
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โชว์ผลดำเนินงานในบัญชี 2561 ปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 6.78 แสนล้าน เพิ่มขึ้น 8.1 หมื่นล้านจากปีก่อนหน้านี้ สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 7.47% รวมเป็น 1.73 ล้านล้าน ขณะที่กำไรสุทธิ 9.8 พันล้าน เพิ่มขึ้น 0.24% เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง 11.82%
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า สำหรับปีบัญชี 2562 (1 เม.ย.62 -31 มี.ค.63) ธ.ก.ส.ตั้งเป้าอำนวยสินเชื่อระหว่างปีจำนวน 770,000 ล้านบาท โดยเป็นการขยายสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้นจากปี 2561 จำนวน 95,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินทุนในการพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ที่ตรงกับความต้องการของเกษตรกรลูกค้า 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่ม Small ซึ่งเป็นลูกค้าที่ยังคงมีปัญหาด้านเงินทุนและการประกอบอาชีพ เช่น ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐวงเงิน 13,000 ล้านบาท กลุ่ม Smart หรือกลุ่มลูกค้าทั่วไป รวมถึงทายาทเกษตรกรวงเงิน 44,000 ล้านบาท และกลุ่ม SMAEs หรือผู้ประกอบการด้านการเกษตร กลุ่มสหกรณ์การเกษตรและวิสาหกิจชุมชนที่เป็นหัวขบวนในการเพิ่มมูลค่าผลผลิต วงเงิน 38,000 ล้านบาท ส่วนด้านเงินฝากมีเป้าหมายเพิ่มขึ้น 60,000 ล้านบาท จากการออกผลิตภัณฑ์และบริการ เช่น สลากออมทรัพย์ เงินฝากแบบมีกรมธรรม์และสวัสดิการ กองทุนทวีสุข เป็นต้น เพื่อส่งเสริมการออมเงินและการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกค้าในกลุ่มต่างๆ
สำหรับผลการดำเนินงานในบัญชี 2561 (1 เม.ย.61 – 31 มี.ค.62) ธนาคารได้สนับสนุนสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคชนบทแล้วจำนวน 678,342 ล้านบาท สินเชื่อเติบโตจากต้นปี 2560 จำนวน 81,647 ล้านบาท ทำให้สินเชื่อรวม ณ สิ้นปีเท่ากับ 1,449,504 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากต้นปี 5.86% มียอดเงินรับฝากรวม 1,617,760 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.75% มีสินทรัพย์รวม 1,873,822 ล้านบาท เพิ่มขึ้น7.47% หนี้สินรวม 1,738,281 ล้านบาท เพิ่มขึ้น7.80% และส่วนของเจ้าของรวม 135,541 ล้านบาท เพิ่มขึ้น3.41% โดยมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 100,883 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากต้นปี 7.74% ค่าใช้จ่ายรวม 90,998 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.62% และมีกำไรสุทธิ 9,885 ล้านบาท เพิ่มขึ้น0.24% คิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (ROA) 0.55%
ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)อยู่ที่3.87% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง11.82% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนที่กำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 8.50% ทั้งนี้ ในช่วงปีบัญชี 2561 ธ.ก.ส. ได้ดำเนินนโยบายสำคัญ เพื่อดูแลและพัฒนาเกษตรกรลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ มาตรการลดภาระหนี้เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปภาคเกษตรตามแนวทางเกษตรประชารัฐ ผ่านโครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวน 2.92 ล้านราย จำนวนเงิน 642,605.82 ล้านบาท
และโครงการขยายเวลาชำระหนี้ต้นเงินกู้ (3 ปี) มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 2.91 ล้านราย จำนวนเงิน 889,815ล้านบาท และดำเนินการสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติอีก 7 แผนงาน ได้แก่ 1.แผนงานพัฒนาและยกระดับเกษตรกรผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งทำให้เกษตรกรผู้มีรายได้น้อยที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 2,156,703 ราย มีรายได้เพิ่มมากกว่า 30,000 บาทต่อปีจำนวน 837,867 ราย หรือ51.44% และเกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากกว่า 100,000 บาทต่อปี จำนวน 29,911 ราย หรือ 1% 2.แผนงานพัฒนาและสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ให้เป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร โดยมีเกษตรกรและทายาทเข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาสู่ Smart Farmer และยกระดับสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการ SMEs เกษตร เพื่อเป็นหัวขบวนในการสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิต การสร้างงานและรายได้ รวม 9,485 ราย
3. แผนงานเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์การเกษตรโครงการตลาดประชารัฐ โดยจัดตลาดประชารัฐในพื้นที่สาขา ธ.ก.ส. ที่มีทำเลเหมาะสมทั่วประเทศ จำนวน 280 แห่ง มีผู้ค้าเข้าร่วมโครงการ 6,974 ราย 4.โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2561 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวน 1.92 ล้านราย พื้นที่ 27.6 ล้านไร่ โดยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่เกษตรกรผู้ประสบภัยที่เข้าร่วมโครงการแล้ว 128,221 ราย พื้นที่จ่ายค่าทดแทนสินไหมกว่า 1.38 ล้านไร่ เป็นจำนวนเงิน 1,741 ล้านบาท ซึ่งเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. เข้าถึงประกันภัยทางการเกษตร 95.82% 5.แผนงานสร้างภูมิคุ้มกันให้เกษตรกร (โครงการเงินออมกองทุนทวีสุข/กอช.) มีเกษตรกรที่เข้าร่วมเป็นสมาชิก จำนวน 1.55 ล้านราย และมีสมาชิกที่ออมเงินต่อเนื่อง50.67% 6.แผนงานพัฒนาความร่วมมือกับพันธมิตรให้เป็นเครือข่ายทางการเงิน จำนวน 1,540 แห่ง และ 7.แผนงานพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอุดมสุข มีชุมชนเข้าร่วม 928 แห่ง
นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินโครงการนโยบายรัฐอื่น ๆ เช่น โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าว โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางและปาล์มน้ำมัน โครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกข้าว โครงการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูการทำนา เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลข่าว : ข่าวหุ้น วันที่ 13 พฤษภาคม 2562