เกษตรชาวบ้าน อ.แก่งหางแมว ทำน้ำหมักอาบแดดใช้เอง
ให้คะแนนเนื้อหา
คะแนนเฉลี่ย 0.0 จำนวนผู้โหวด 0
วันที่ ปรับปรุง 12 มี.ค. 2562
อธิคม สิงขรณ์ - รัตนธร เขาหนองบัว รายงาน
ผักใบเขียวสดที่อวดใบเต่งตึงเหล่านี้ ถูกบำรุงฉีดพ่นด้วยน้ำหมักอาบแดด ที่เกษตรกรผลิตใช้กันเองภายในครัวเรือน ชื่อ น้ำหมักอาบแดด หลายคนคงแปลกใจ ที่มามาจากเจ้าของบ้านสวน ป.เปาอินทร์ ออแกนิค คอนโด (organic condo) สวนที่เจ้าของตั้งใจปลูกผักเอง กินเอง ใน ต.สามพี่น้อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ซึ่งผักสารพัดชนิด ไม่ว่าจะเป็นคะน้าต้น คะน้ารูปหัวใจ ผักกวางตุ้ง หัวไชเท้า ต้นอ่อนเม็ดทานตะวัน ที่ครอบครัว เปาอินทร์ ชอบ ได้ถูกนำมาปลูกในแปลงผัก รูปแบบคอนโดริมถนนสายหนองเจ๊กสร้อย-แก่งหางแมว โดยผักที่ต้นอวบ ใบสมบูรณ์ จะถูกย้ายต้นกล้ามาปลูกในภาชนะ ที่ใช้วัสดุในการยืดลำต้นใต้ดินที่เกิดจากมูลไส้เดือนเป็นหลัก และฉีดพ่นบำรุงต้นและใบด้วยปุ๋ยน้ำหมักอาบแดด
นายอนุชล เปาอินทร์ บอกว่า การทำน้ำหมักอาบแดด หรือจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ทำไม่ยาก ทั้งที่ทำขึ้นมาใหม่โดยไม่ต้องมีหัวเชื้อ กับการทำเป็นหัวเชื้อแล้วนำมาเพิ่มเติมอาหารให้ เริ่มต้นด้วยการนำน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติใส่ขวดขนาด 600 ซีซี ไข่ไก่ 1 ฟอง น้ำปลายี่ห้อใดก็ได้ ซีอิ๊วดำ เปลือกไข่จะป่นหรือไม่ป่นก็ได้ และผงชูรส เมื่อได้วัสดุมาครบแล้ว ให้เริ่มต้นด้วยการตอกไข่ 1ฟอง ใส่ถ้วย (เพื่อป้องกันการหกเลอะเทอะ) ก่อนนำมาใส่ลงในขวดเปล่า ขนาด 1 ลิตร จากนั้นแล้วเติมน้ำปลา ซีอิ๊ว ผงชูรส ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน นำน้ำ 600 ซีซี ที่เตรียมไว้มาเทใส่ เขย่าไปมาให้เข้ากัน ก่อนนำไปตากแดดทิ้งไว้ 1 เดือน และต้องเขย่าขวดทุกวันหรือวันเว้นวัน หรือจะผสมอาหารจุลินทรีย์ลงไปอย่างเช่น ปลาร้า กุ้งเล็ก หรือผลไม้ เช่น มะละกอ สับปะรด รังปลวก หน่อกล้วย ตามที่จะหาวัสดุได้ เพียงแค่นี้ก็จะเกิดจุลินทรีย์ สังเคราะห์แสงหรือน้ำหมักอาบแดด
ด้าน น.ส.รัชนี เปาอินทร์ หรือน้องน้ำ เปิดเผยว่า ด้วยสถานภาพความเป็นอยู่ของบ้าน มีเนื้อที่ไม่มากพอจะทำแปลงปลูกผัก จึงใช้พื้นที่หน้าบ้าน สร้างแปลงปลูกผักแบบคอนโด พร้อมกับการปลูกผักด้วยกระถาง เริ่มจากการสังเกต และฟื้นฟู พื้นฐานของดิน โดยการใช้จุลินทรีย์จากน้ำหมักอาบแดด เข้าช่วยบำรุงดิน และช่วยการขยายรากระเบิดดิน ด้วยหลักของวิธีการทำธรรมชาติ เสริมกำลังด้วยการเลี้ยงไส้เดือน เพื่อเอามูลมาเป็นปุ๋ยบำรุงพืชได้อีกทางหนึ่ง
ขณะที่ นางสายสุวรรณ สร้อยเกียว เกษตร อ.แก่งหางแมว กล่าวเสริมว่า น้ำหมักอาบแดดนี้ก็คือจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ที่เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก เป็นประโยชน์ต่อพืช พบได้ทั่วไปตามธรรมชาติทั้งในดินและน้ำ ประโยชน์ของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ทำหน้าที่นักย่อยสำหรับกำจัดของเสีย ก๊าซและสารพิษต่าง ๆ ซ้ำยังช่วยตรึงไนโตรเจนในดิน จึงช่วยให้พืชแข็งแรง โตเร็วเป็น 3 เท่า เมื่อนำไปใช้ทางดินทำให้รากพืชแข็งแรงและหาอาหารได้ดีขึ้น หากใช้กับนาข้าวจะช่วยเร่งการแตกกอของข้าว ช่วยในการย่อยธาตุอาหารและวัตถุอินทรีย์ในดิน เพื่อให้พืชดูดซึมไปใช้ได้อย่างง่ายดาย ป้องกันพืชโดยการทำลายจุลินทรีย์ไม่ดีในดิน ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคพืช
"เนื่องจาก พื้นที่เกษตรกรรมในปัจจุบัน ดินเสื่อมสภาพลงไปจากการใช้สารเคมีไม่ถูกต้อง เกษตรกรจึงต้องนำร่องช่วยกันฟื้นฟูดินที่ทุกวันนี้แทบปราศจากแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อพืช เมื่อมีการนำเจ้าจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงมาใช้กับพืชและดิน ทำให้พืชผักเจริญเติบโตเร็ว สำหรับอัตราส่วนในการใช้ ถ้าฉีดพ่นทางใบใช้ 30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ถ้าราดลงดินใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อปรับสภาพดินให้กลับมาสมบูรณ์ พร้อมกลับ มาใช้ทำการเกษตร และจากข้อมูลการหมักปุ๋ยที่เกิดจากจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ที่ส่งไปตรวจสอบแร่ธาตุ ต่าง ๆ ภายในน้ำหมัก พบว่าหากใช้ส่วนผสม จำพวกเปลือกไข่ หรือเปลือกกุ้ง กระดองปู จะมีแคลเซียม แมกนีเซียมและฟอสฟอรัส เพิ่มขึ้น จากการหมักด้วยผลไม้หรือเศษผัก" เกษตร อ.แก่งหางแมว กล่าว
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 12 มีนาคม 2562
