"เอ็กซิมแบงก์" หนุนลงทุนกัมพูชา
ให้คะแนนเนื้อหา
คะแนนเฉลี่ย 0.0 จำนวนผู้โหวด 0วันที่ ปรับปรุง 8 มี.ค. 2562
"เอ็กซิมแบงก์" เปิดสำนักงานผู้แทนในกรุงพนมเปญ กัมพูชา หนุนธุรกิจไทยลงทุน ทำการค้าในกัมพูชา เผยธุรกิจแฟรนไชส์มีโอกาสขยายตัวสูง ทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และสปา เปิดสินเชื่อใหม่ให้ผู้ประกอบการ CLMV ซื้อสินค้าและบริการจากไทย หวังหนุนส่งออกปีนี้โต
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยเนื่องใน โอกาสเปิดสำนักงานผู้แทนธนาคาร เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาวานนี้ (7 มี.ค.) ว่า การเปิดสำนักงานผู้แทนของเอ็กซิมแบงก์ในกัมพูชา เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอี ซึ่งมีโอกาสทางธุรกิจอยู่มากในกัมพูชา เนื่องจากการค้าไทย-กัมพูชาเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปีใน 5 ปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเพิ่มเป็น 15,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2563 การลงทุนไทยในกัมพูชา 5 ปีที่ผ่านมามีมูลค่าสูงถึง 7,000 ล้านดอลลาร์ ไทยเป็นนักลงทุนต่างชาติ รายใหญ่อันดับที่ 4 ในกัมพูชา
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการ ผู้จัดการ เอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า สำนักงานผู้แทนในกรุงพนมเปญ เป็นสำนักงาน แห่งที่ 3 ของธนาคาร หลังเปิดในเมืองย่างกุ้ง เมียนมา และเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อ ปี 2560 และ 2561 ตามลำดับ โดยกัมพูชา มีจุดเด่นด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 6.5% ต่อปี ในช่วง 5 ปีข้างหน้า รัฐบาลมีนโยบายเร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รองรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ในปี 2566
โดยธุรกิจแฟรนไชส์ของไทยเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีโอกาสขยายตัวในกัมพูชา อาทิ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เบเกอรี และสปา เป็นต้น เพื่อรองรับความต้องการของ คนรุ่นใหม่ และนักท่องเที่ยวในกัมพูชา ที่ผ่านมาธนาคารได้สนับสนุนการลงทุนไทยในกัมพูชาจำนวนมากกว่า 4 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม และการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ
ทั้งนี้ ธนาคารเปิดผลิตภัณฑ์ใหม่ บริการสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ซื้อในประเทศเป็นวงเงินสินเชื่อให้ผู้ประกอบการในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (CLMV) ใช้ซื้อสินค้าและบริการจากไทย วงเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี สูงสุด 4 ล้านดอลลาร์ต่อราย และไม่เกิน 85% ของมูลค่าซื้อขายสินค้าหรือบริการ จากไทย อัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ LIBOR +4.0% ต่อปี
มีเป้าหมายเพื่อผลักดันการส่งออก ของไทยไปยัง CLMV ในปี 2562 ต่อเนื่อง จากปี 2561 ที่การส่งออกไป CLMV ขยายตัว ในระดับสูงถึง 17% ส่งผลให้สัดส่วน การส่งออกของไทยไป CLMV แซงหน้าตลาดส่งออกสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ รวมทั้งยุโรป และญี่ปุ่น โดยเอ็กซิมแบงก์ จะชำระค่าสินค้าโดยตรงให้แก่ผู้ส่งออกไทย ช่วยให้ผู้ส่งออกมีความมั่นใจที่ขยายการค้า กับคู่ค้าใน CLMV
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 8 มีนาคม 2562