เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หนุนวิสาหกิจชุมชนฯ บ้านอุ่มแสง เดินหน้าเกษตรอินทรีย์ต่อเนื่อง

ข่าววันที่ : 18 ก.พ. 2562


Share

tmp_20191802094852_1.jpg

วันที่ ปรับปรุง 18 ก.พ. 2562

          นายวิวัฒน์ศัลยกำธรรมช.เกษตรและสหกรณ์เปิดเผยหลังเยี่ยมชมการดำเนินการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง(อินทรีย์)ตำบลดู่อำเภอราศีไศลจังหวัดศรีสะเกษว่ากลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสงเป็นหนึ่งในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่เป็นตัวอย่างด้านการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ต่อเนื่องและมีมาตรฐานมีนายบุญมีสุระโคตรเป็นประธานกลุ่มฯส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์มาตั้งแต่ปี2547มีสมาชิกกว่า1,200รายที่รวมตัวกันผลิตข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากลภายใต้แนวทางการมีส่วนร่วมของทุกคนในชุมชนเน้นลดต้นทุนการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของผลผลิตด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาปรับใช้ในกระบวนการผลิตและการแปรรูป

          ทั้งนี้วิสาหกิจชุมชนดังกล่าวดำเนินกิจกรรมด้านการแปรรูปข้าวอินทรีย์โดยส่งเสริมให้สมาชิกเกษตรกรปลูกข้าวปลอดสารพิษ/ข้าวอินทรีย์และขอตรวจรับรองในมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากลทั้งIFAOM, EU, NOPและมาตรฐานการค้าที่เป็นธรรม(Fairtrade) การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ การทำนาข้าวขาวดอกมะลิ105 อินทรีย์โดยส่งเสริมให้ทำนาหลายวิธีเพื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายและส่งเสริมให้สมาชิกปลูกปุ๋ยพืชสดเพื่อปรับสภาพดินให้สมบูรณ์ชึ้นเช่นถั่วเหลืองปลูกถั่วพุ่มถั่วพล้าปอเทือง

          “ปัจจุบันกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสงมีพื้นที่ปลูกข้าวอินทรีย์22,000ไร่และมีเป้าหมายขยายพื้นที่ปลูกให้ได้ 30,000ไร่ ภายในปีหน้าและจะขยายเพิ่มขึ้นอีกในปีต่อไปเมื่อพิจารณาถึงเป้าหมายพื้นที่รวมเกษตรอินทรีย์ทั้งจังหวัด250,000ไร่ภายในปี2564และแนวทางดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนที่ขับเคลื่อนด้านเกษตรอินทรีย์อย่างต่อเนื่องแล้วเชื่อว่าจ.ศรีสะเกษจะทำได้ตามเป้าหมายอย่างไรก็ตามทางกลุ่มวิสาหกิจฯยังต้องการให้กระทรวงเกษตรฯสนับสนุนด้านการตลาดซึ่งกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงสาธารณสุขส่งเสริมให้โรงพยาบาลโรงเรียนทุกแห่งและแหล่งท่องเที่ยวรับซื้อผลผลิตเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรส่งเสริมไทยเป็นแหล่งอาหารปลอดภัย และให้คำปรึกษาด้านเงินทุน ส่งเสริมการผลิตและแปรรูปโดยร่วมกับภาคเอกชนและพัฒนาแหล่งน้ำให้เกษตรกรขุดบ่อน้ำใช้ในการเกษตรเพิ่มรายได้ซึ่งมอบให้กรมชลประทานและกรมพัฒนาที่ดินไปปรับแผนโครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรต่อไป”นายวิวัฒน์กล่าว


ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก  :   เว็บไซต์แนวหน้า  วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562