เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

ฝังรากความคิด แบ่งปันความรู้สู่นวัตกรรม ผลักดันองค์กรบรรลุเป้า

ข่าววันที่ : 14 ก.พ. 2562


Share

tmp_20191402111313_1.jpg

วันที่ ปรับปรุง 14 ก.พ. 2562

          เรื่อง : พัฐกานต์ เชียงน้อย


          พนักงาน คือ ทรัพยากรที่มีคุณค่าขององค์กร แต่การจะทำให้ "ทรัพยากร"  เหล่านั้น มีคุณค่าต่อองค์กรจริง จนทำให้เกิดความสามารถทางการแข่งขัน ในตลาดได้ ต้องผ่านขั้นตอนการหล่อหลอมมากมาย รวมไปถึงทักษะผู้นำที่จะขับเคลื่อนทุกอย่างไปสู่เป้าหมาย และนั่นคือ ภารกิจที่ "สุธี สุขเรือน" ซีอีโอ คนล่าสุดของ บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กำลังผลักดัน

          ภารกิจสู่เป้า 4,300 เมกะวัตต์
          หลังเข้ารับตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ้านปู เพาเวอร์ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2562 "สุธี"ก็เดินหน้าตามภารกิจเป้าหมาย ด้วยการผลักดันการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 4,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 โดยในส่วนนี้จะเป็นโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน (renewable) ไม่ต่ำกว่า 20% จากปัจจุบันที่มีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนแล้วสัดส่วน 16%
          "ผมอยู่บ้านปูมากว่า 20 ปี เติบโตมาทางสายการเงิน ทำให้มีข้อดีในการบริหาร ที่ต้องมีความรู้ทั้งด้าน technician และ commercial"
          ความท้าทายกับการเข้ารับภารกิจนี้ คือ การบริหารความต้องการของพลังงาน ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจ ถ้าเศรษฐกิจโต พลังงานก็จะโต แต่หลังวิกฤติการเงิน ภาพรวมของธุรกิจพลังงานก็ไม่ค่อยดี ความต้องการพลังงานลดลง ความท้าทายคือ ถ้าต้องการโตต่อไป จะต้องทำอย่างไร คำตอบ คือ การขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ทำให้ตอนนี้ บ้านปู มีการลงทุนทั้งที่ ญี่ปุ่น จีน ลาว และกำลังขยายไป เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย
          "บ้านปู ฮาร์ท" พัฒนาบุคลากร การขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ หัวใจสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้ทุกอย่างเดินไปได้ตามเป้า นอกเหนือจากการวางกลยุทธ์ (strategic) ทางธุรกิจก็คือ "บุคลากร" ซึ่งถือเป็นแนวทาง ที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจของบ้านปูอยู่แล้ว จากธุรกิจที่มีการลงทุนในกว่า 10 ประเทศ มีพนักงานหลากหลายเชื้อชาติ การที่จะทำให้พนักงานทั้งหมดเดินไปในทิศทางเดียวกันคือ วัฒนธรรมองค์กร "Banpu Heart"ซึ่งเป็นการเติมเต็มต่อเนื่องมาจาก Banpu Spirit ที่ดำเนินการใน 3 เสาหลัก คือ Passsion, Innovation และ Committed
          พนักงานของบ้านปูต้องมี Passion มีใจรัก มีความมุ่งมั่น ที่จะทำงานให้สำเร็จ ในขณะเดียวกัน Innovation หรือนวัตกรรม ก็คือ ตัวขับเคลื่อนที่ทำให้องค์กรเติบโตได้ต่อเนื่อง คนบ้านปูจะได้รับการส่งเสริมให้กล้าคิด กล้าทำ กล้านำเสนอนวัตกรรม
          ซึ่งบ้านปูสนับสนุนด้วยกิจกรรมมากมายรวมถึงมีการจัดประกวดไอเดียนวัตกรรม ที่บ้านปูสามารถให้การสนับสนุนและนำมาต่อยอด หากเป็นนวัตกรรมที่เป็นไปตามโจทย์ของการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการลดต้นทุน

          ทีมเวิร์กและการแบ่งปันความรู้
          นอกจากธงหลักเรื่องของ "Banpu Heart" แล้ว ผู้นำคนนี้ยังให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีมเวิร์กและการแบ่งปันความรู้ เขาบอกว่า ดีเอ็นเอของคนบ้านปู คือ ความยืดหยุ่น (flexibility) ความสามารถในการปรับตัว (adaptability) การทำงานร่วมกัน (synergy) และ ไม่หยุดนิ่ง (mobility)
          ปัญหาในการทำงาน คนทั่วไปมักแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีต่อองค์กร เพราะฉะนั้น วิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ คือ การแบ่งปันความรู้ (knowledge sharing) ถ้าไม่บอก ไม่แชร์ ก็อยู่ที่นี่ไม่ได้ ที่บ้านปูจะมีการแชร์ความรู้ร่วมกันทั้งองค์กร มีอะไรก็มาแชร์กัน เพราะเราคิดว่าเราต้องโตไปด้วยกัน
          เรามองว่า คนที่ทำงานกับเราต้องเป็นคนเก่งและคนดี ก่อนเข้ามาร่วมงานกับบ้านปู จะมีการทดสอบทัศนคติ วิธีคิด มุมมอง ว่าอยู่ในวิสัยหรือมีพื้นฐานพฤติกรรมที่สามารถพัฒนามาสู่ "Banpu Heart" ได้หรือไม่
         

          ผู้บริหารนักโค้ช
          การเข้ามานั่งในตำแหน่งผู้นำเบอร์  1 ขององค์กร ทำให้ "สุธี" ต้องมองทุกอย่างในมุมกว้างมากขึ้น ต้องครอบคลุมการทำงานทั้งองค์กร ไม่เพียงแค่ขับเคลื่อนกลยุทธ์ให้องค์กรสร้างประสิทธิภาพ และรายได้ตามเป้า แต่ต้องดูแลการเงิน ดูแลทีมงาน เซตเป้าที่ชัดเจนให้กับทีม
          หากงานไม่เป็นไปตามเป้า สิ่งที่ต้องทำก่อนอื่นคือ กลับมาดูที่ตัวเองว่า สื่อสารชัดเจนหรือไม่ ซัพพอร์ตทีมงานดีแล้วหรือยัง สิ่งที่ต้องทำคือ ไม่ใช่การปล่อยทีมงานให้เดินตามลำพัง ผู้นำของบ้านปู จะผ่านการอบรมเรื่องการมีส่วนร่วมของผู้นำ (engaging leader) คนที่ผ่านตรงนี้จะไปเป็นโค้ชที่ดี (great coach) ที่สามารถเป็นต้นแบบให้คนในองค์กรได้ และยังต้องทำหน้าที่เป็นโค้ชให้กับคนต่อไป โค้ชให้กับคนในทีม และสอนให้หัวหน้าทีมไปโค้ชลูกทีม
          ด้วยวัฒนธรรมองค์กรที่มีความชัดเจน และนโยบายภาพรวมขององค์กรบ้านปู ทำให้ผู้นำอย่าง "สุธี สุขเรือน" สามารถเติบโตขึ้นมารับไม้ต่อจากผู้นำคนก่อนได้อย่างไม่ติดขัด สิ่งที่ต้องเดินหน้าคือ เป้าหมายการผลิตและการขยายธุรกิจและเติบโตอย่างยั่งยืน และพร้อมทำหน้าที่ส่งต่อความรู้ เพื่อสร้างคนรุ่นต่อๆ ไปให้ก้าวขึ้นมารับช่วงต่อได้อย่างไม่ติดขัด เช่นเดียวกับสิ่งที่เขาได้รับในวันนี้
          'แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีต่อองค์กรวิธีการแก้ปัญหาเหล่านี้ คือ การแบ่งปันความรู้ ถ้าไม่บอก ไม่แชร์ ก็อยู่ที่นี่ไม่ได้'


ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก  :  หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 14 - 16 ก.พ. 2562