เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

ดันภาคเกษตรทำประกันเพิ่ม

ข่าววันที่ : 7 ธ.ค. 2561


Share

tmp_20180712102435_1.jpg

วันที่ ปรับปรุง 7 ธ.ค. 2561

          กรมส่งเสริมการเกษตรเดินหน้าแผน 5 ปี หนุนภาคเกษตรทำประกันภัยรองรับให้ได้ 80% ของพื้นที่เพาะปลูกทั่วประเทศ
          นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า ระบบการรับประกันภัยจะเข้าไปมีสัดส่วนประมาณ 80% ของพื้นที่การเกษตร 149 ล้านไร่ ตามแผนการปฏิรูปหรือโรดแมปที่วางเป้าไว้ชัดเจนในเรื่องประกันภัยและระบบเกษตรพันธสัญญา ซึ่งต่อไปเมื่อเกษตรกรมีการทำประกันภัยพืชผลมากขึ้น ทางภาครัฐก็จะลดภาระเรื่องการอุดหนุนลดลงได้
          "เมื่อมีระบบประกันภัยเข้ามาช่วยเกษตรกรก็ช่วยลดภาระรัฐได้ อย่างการประกันภัยข้าวนาปี ที่จะได้ค่าสินไหม 1,260 บาท/ไร่ หรือคิดเป็น 50% ของต้นทุนเพาะปลูก จากปกติที่รัฐจ่ายให้ไม่เกิน 25% ของต้นทุนหรือ 1,113 บาท/ไร่ ซึ่งในปีนี้การเพาะปลูกข้าวนาปีได้รับเสียหายจากน้ำท่วมประมาณ 1.5 ล้านไร่ และเสียหายจากภัยแล้ง 1.5 ล้านไร่" นายสำราญ กล่าว
          ทั้งนี้ ล่าสุดได้รับมอบซอฟต์แวร์พัฒนาระบบข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกร และการรายงานความเสียหายจากภัยธรรมชาติมาจากสมาคมประกันวินาศภัยไทย ซึ่งสามารถรองรับการขยายประกันภัยพืชผลของประเทศให้ครอบคลุมพืชเศรษฐกิจทุกชนิดตามนโยบายรัฐ
          "ตอนนี้กรมฯ ทำเรื่องการขึ้นทะเบียนเกษตรกร แต่พื้นที่ที่โดนใช้ไปแล้วในการขึ้นทะเบียน ระบบซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ 100% โดนใช้แล้วกว่า 90% ถ้าต้องมาใช้ในเรื่องระบบประกันภัยต่างๆ ที่ต้องแบ่งพืชออกเป็นแต่ละชนิดและลงลึกถึงรายแปลง รายชนิดพืช ซึ่งเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการทำประกันภัย แสดงว่าพื้นที่ในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ที่กรมฯ มีระบบซอฟต์แวร์อยู่แล้วไม่สามารถที่จะรองรับได้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น และยังมีเรื่องข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในโครงการสานพลังประชารัฐ ต้องมีแปลงที่ต้องประมวลผลเพิ่มเข้ามาอีกเป็นแสนแปลง ทำให้ซอฟต์แวร์เดิมไม่สามารถรองรับได้" นายสำราญ กล่าว
          นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า ตัวซอฟต์แวร์นี้จะทำหน้าที่ในการบริหารจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อนำ ไปใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงระบบฐานข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบ ข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกร และการรายงานความเสียหายจากภัยธรรมชาติ รองรับการขยายประกันภัยพืชผลของประเทศให้ครอบคลุมพืชเศรษฐกิจทุกชนิดตามนโยบายรัฐ รองรับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดการบูรณาการข้อมูลทั้งระบบ
          "การให้การสนับสนุนกับกรมส่งเสริมการเกษตรในครั้งนี้นอกจากจะช่วยสนับสนุน ส่งเสริมโครงการประกันภัยพืชผลต่างๆ ของภาครัฐแล้ว ยังจะช่วยให้มีการพัฒนาระบบฐานข้อมูลของเกษตรกรทั้งระบบ ซึ่งช่วยให้ภาครัฐสามารถจัดการข้อมูลเกษตรกรได้อย่างครบถ้วน สมบูรณ์ ครอบคลุมการเพาะปลูกทุกประเภท และสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาปรับใช้กับ โครงการอื่นๆ ได้ด้วย" นายจีรพันธ์ กล่าว


ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก  :  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่ 7 ธันวาคม 2561