เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

ธุรกรรม สาขาแบงก์ หดเหลือ 10%

ข่าววันที่ : 22 ต.ค. 2561


Share

tmp_20182210090339_1.jpg

วันที่ ปรับปรุง 22 ต.ค. 2561

          เปิดข้อมูลสาขาแบงก์ทั้งระบบ พบ 9 เดือน ทยอยปิดต่อเนื่อง เผย"ไทยพาณิชย์" ครองแชมป์ 36 สาขา รองลงมา"กสิกร" ปิดแล้ว 22 สาขา ด้านผู้บริหาร "เอสซีบี" ชี้สัดส่วนธุรกรรมผ่านสาขาเหลือแค่ 10% ส่วนใหญ่หันใช้บริการผ่านดิจิทัล
          ผู้สื่อข่าวรายงานภาพรวมสาขาของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2561 พบว่า จำนวนสาขาของธนาคารพาณิชย์มีการปรับลดลงต่อเนื่อง โดยหากดูแบงก์ที่ปิดสาขามากสุดในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา อันดับแรกคือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ปิดไปแล้ว 36 สาขา ทำให้ปัจจุบันธนาคารมีสาขารวมอยู่ที่ราว 1,125สาขา ลดลงจากสิ้นปีก่อนที่มีสาขาทั้งสิ้น 1,161สาขา
          รองลงมาคือ ธนาคารกสิกรไทย ปิดไปแล้ว 22 สาขา มาอยู่ที่ 1,007 สาขาจาก 1,029สาขา และอันดับสาม คือธนาคารทหารไทย ที่ปิดสาขาแล้ว 17สาขา ทำให้สาขารวมมาอยู่ที่ 415สาขา จาก 432สาขา    แต่หากดูแบงก์ที่มีการเปิดสาขามากที่สุดช่วง 9เดือนที่ผ่านมา คือธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด(มหาชน)เปิดสาขาไปแล้ว 75สาขา ทำให้สาขารวมมาอยู่ที่ 207สาขาจาก132สาขาเมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน
          ทั้งนี้ภาพดูภาพรวมสาขารวมของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบพบว่า สาขารวมลดลง 14สาขา มาอยู่ที่ 6,770 สาขา จาก 6,784สาขา แต่หากเทียบกับไตรมาส2 ที่ผ่านมา สาขามีจำนวนเพิ่มขึ้นที่ 23 สาขา
          นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าบุคคลและผู้บริหารสูงสุดเครือข่ายสาขา ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า ธนาคารปรับลดสาขาลงค่อนข้างมาก ซึ่งก็ถือเป็นไปตามนโยบายที่วางไว้ก่อนหน้านี้ ว่าจะปรับลดสาขาลงอย่างต่อเนื่อง จากกว่า1,000 สาขา ให้ลดลงเหลือเพียง 400 สาขา ภายใน 3ปีนี้ โดยเฉพาะ สาขาที่มีการทำธุรกรรมน้อยลง ธนาคารก็จำเป็นต้องปิดสาขาลง เพื่อลดต้นทุนของธนาคาร
          ทั้งนี้หากดูการทำธุรกรรมของสาขาในปัจจุบันพบว่า เหลือปริมาณการทำธุรกรรมอยู่ราว 10% หากเทียบกับช่วงสิ้นปีก่อนที่จำนวนการทำธุรกรรมของสาขาอยู่ที่ราว 15% ขณะที่การทำธุรกรรมผ่านช่องทางเอทีเอ็ม พบว่าปัจจุบันลด 54%จาก 64% และเห็นการหันไปทำธุรกรรมบนดิจิทัลมากขึ้น โดยหากดูการทำธุรกรรมผ่านแอพพลิเคชั่น โมบายแบงกิ้ง SCB EASY พบว่าปัจจุบันยอดการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 36% จาก 17% หากเทียบฐานลูกค้าของธนาคารที่มีอยู่ราว 15.5ล้านบัญชี
          นายเดชา ตุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือBBL กล่าวว่า ปัจจุบันสาขาธนาคารยังทรงตัว อยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับสิ้นปีก่อน เนื่องจากธนาคารยังมองว่าสาขายังมีความจำเป็นในเวลานี้ และหากดูการทำธุรกรรมผ่านสาขาก็พบว่ายังอยู่ในอัตราที่สูงเกือบ50%อยู่ และลูกค้าธนาคารส่วนใหญ่ ก็ยังเป็นกลุ่มลูกค้าที่ยังต้องใช้บริการผ่านสาขา ดังนั้นปีนี้ก็คาดว่าภาพสาขาน่าจะทรงตัวหากเทียบกับสิ้นปีก่อน แม้ธนาคารจะส่งเสริมให้ลูกค้าหันไปทำธุรกรรมบนดิจิทัลแบงกิ้งมากขึ้น แต่เหล่านี้ก็ต้องใช้ระยะเวลา ซึ่งจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านสาขามากขึ้น น่าจะปี 2562 เป็นต้นไป
          นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ปัจจุบันสาขาของธนาคารถือว่าทรงตัว หากเทียบกับช่วง 2-3ปีที่ผ่านมา ที่ปิดสาขาจำนวนมาก เนื่องจากเชื่อว่าเมื่อแนวโน้มดิจิทัลแบงกิ้งเกิดขึ้น และผู้ใช้บริการหันไปทำธุรกรรมบนดิจิทัลมากขึ้น การทำธุรกรรมสาขาก็อาจลดลง ธนาคารจึงวางแผนปิดสาขาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้เป็นต้นทุนกับธนาคารในระยะข้างหน้า และเพื่อให้สอดรับกับยุคดิจิทัลด้วย ดังนั้นสาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน ที่ราวกว่า 80 สาขาเชื่อว่าน่าจะเป็นระดับที่เหมาะสมแล้ว
          "เมื่อ2-3ปีก่อนที่เราเร่งปิดสาขาปีละกว่า100สาขา หลายคนว่าเราบ้า ว่าทำไมปิดเยอะขนาดนั้น แต่เพราะเรามองไปข้างหน้า ว่ายังไงสาขาก็ต้องลดลง เมื่อลูกค้าย้ายไปบนดิจิทัล ดังนั้นวันนี้เราก็ไม่ได้ลดสาขาลงเหมือนในอดีตแล้ว" นายกิตติพันธ์กล่าว

 

ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก  :  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  วันที่ 22 ตุลาคม 2561