เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

ดัชนีเศรษฐกิจครัวเรือนเริ่มดีขึ้น

ข่าววันที่ : 16 ต.ค. 2561


Share

tmp_20181610105819_1.jpg

วันที่ ปรับปรุง 16 ต.ค. 2561

          โดย...ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

          ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของ ครัวเรือนไทย (KR-ECI) ในเดือน ก.ย. 2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 45.2 เนื่องจากครัวเรือนมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อประเด็นเรื่องรายได้และการมีงานทำ ซึ่งช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินของครัวเรือนได้บางส่วน
          นอกจากนี้ ยังช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นตามระดับราคาสินค้าและบริการภายในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาน้ำมัน เชื้อเพลิงขายปลีกและราคาอาหารนอกบ้านที่ในเดือน ก.ย. 2561 เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนอีก 2.17% และ 0.70% ตามลำดับ
          ดัชนีองค์ประกอบสะท้อนมุมมองทางด้านรายได้และการมีงานทำของ ครัวเรือนยืนเหนือระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 สะท้อนภาพตลาดแรงงานในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง สอดรับไปกับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย
          จากการสำรวจในเดือน ก.ย. 2561 พบว่าราว 15% ของครัวเรือนไทยที่ทำการสำรวจมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครัวเรือนนอกภาคเกษตร โดยเฉพาะในภาคการค้า (ผลประกอบการดีขึ้น) และภาคการผลิต (ได้ค่าทำงานล่วงเวลาเพิ่มขึ้น)
          ในขณะที่ครัวเรือนภาคเกษตรยังเผชิญแรงกดดันทางด้านราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวลดลง รวมไปถึงต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นทั้งในส่วนของปัจจัยการผลิต (เช่น ปุ๋ย) และค่าจ้างแรงงาน ทำให้รายได้สุทธิของครัวเรือนในภาคเกษตรกรรมยังคงชะลอตัว
          นอกจากนี้ ดัชนีองค์ประกอบสะท้อนมุมมองทางด้านรายได้และการมีงานทำของครัวเรือนที่ปรับตัวดีขึ้น ยังสอดคล้องไปกับจำนวนผู้ว่างงานที่ลดลง โดยในเดือน ก.ย. 2561 มีจำนวนผู้ว่างงานลดลง 70,620 อัตรา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมาจากภาคเกษตรกรรมและภาคการค้า/การบริการเป็นสำคัญ
          สำหรับดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือนในช่วง 3 เดือนข้างหน้า (ต.ค.-ธ.ค.) ยังทรงตัวต่อเนื่องจากเดือน ส.ค. 2561 ที่ระดับ 46.5 เนื่องจาก ครัวเรือนมองว่า รายได้ในอนาคตน่าจะปรับตัวดีขึ้นจากการปรับขึ้นของค่าจ้าง/รายได้ รวมถึงการได้รับค่าตอบแทนพิเศษ (โบนัส ค่าคอมมิชชั่น) ในช่วงปลายปีน่าจะครอบคลุมและเพียงพอต่อรายจ่าย (รวมภาระหนี้สิน) ต่างๆ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น
          ทั้งนี้ จากมุมมองของครัวเรือนที่พร้อมจะใช้จ่ายตามรายได้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต นับเป็นสัญญาณการบริโภคของภาคเอกชนที่ดี ซึ่งน่าจะช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 4/2561 ได้เป็นอย่างดี
          นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังทำการสำรวจเพิ่มเติมเพื่อติดตามต่อเนื่องในประเด็นเรื่องความกังวลของครัวเรือนไทยต่อสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบันและในระยะข้างหน้า พบว่า เมื่อเทียบผลการสำรวจความคิดเห็นของครัวเรือนระหว่างเดือน ก.ย. 2561 กับเดือนส.ค. 2561 นั้น
          ครัวเรือนไทยที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีความกังวลมากขึ้นต่อสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากในเดือน ก.ย. 2561 มีฝนตกชุกกว่าเดือน ส.ค. 2561 สะท้อนจากปริมาณน้ำฝนรายเดือนที่ในเดือน ก.ย. มีปริมาณน้ำฝนมากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับเดือน ส.ค. 2561
          อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส สุดท้ายของปี 2561 ยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องติดตามไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรที่ยัง คงปรับตัวลดลงในบางรายการส่ง ผลกระทบต่อรายได้ครัวเรือนเกษตร
          ในขณะเดียวกันราคาพืชผักบริโภคในเดือน ต.ค. 2561 ก็คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นตามอุปสงค์ในช่วงเทศกาลกินเจ (9-17 ต.ค. 2561) นอกจากนี้ ยังต้องติดตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อาจจะมีผลกระทบต่อระดับราคาพลังงานในประเทศ และการปรับตัวของผู้ประกอบการ รวมถึงมาตรการต่างๆ ของภาครัฐที่ทยอยออกมาในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2561
          โดยสรุปแล้วดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือนในปัจจุบันปรับตัวดีขึ้นจากมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นของ ครัวเรือนต่อประเด็นเรื่องรายได้และการมีงานทำ ซึ่งน่าจะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นตามระดับราคาสินค้าและบริการภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นได้ ในขณะที่ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของ ครัวเรือนในช่วง 3 เดือนข้างหน้า (ต.ค.-ธ.ค.) ยังทรงตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากครัวเรือนมองว่า รายได้ในอนาคตน่าจะปรับตัวดีขึ้น แต่ค่าใช้จ่าย (รวมภาระหนี้สิน) ก็น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน


ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก  :  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่ 16 ตุลาคม 2561