เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

วช.สนองนโยบายโครงการชุมชนไม้มีค่าเพื่อเกษตรกรไทย

ข่าววันที่ : 17 ก.ย. 2561


Share

tmp_20181709094617_1.jpg

วันที่ ปรับปรุง 17 ก.ย. 2561

          วช.สนองนโยบายโครงการ “ชุมชนไม้มีค่า” เพื่อเกษตรกรไทยเพิ่ม 20,000 ชุมชน ได้พื้นที่ป่า 2.6 ล้านไร่ 1,000 ล้านต้น

          ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาประชุมครม.สัญจรที่จ.เพชรบูรณ์ และจ.เลย ระหว่างวันที่ 17-18 กันยายน 2561นั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาดูงานและติดตามความคืบหน้าโครงการ “ชุมชนไม้มีค่า” เพื่อเกษตรกรไทย ซึ่งรัฐบาลเตรียมมอบหมายให้วช.ร่วมกับกรมป่าไม้ BEDO ธ.ก.ส. และ 11 หน่วยงาน ดำเนินการ

          โครงการ “ชุมชนไม้มีค่า” มีเป้าหมาย 10 ปี ประเทศไทยเกิดชุมชนไม้มีค่า 20,000 ชุมชน ได้พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น 26 ล้านไร่ ส่งเสริมแลัวขยายผลให้ประชาชน 2,600,000 ครัวเรือน ปลูกต้นไม้ 1,000 ล้านต้น เพื่อสร้างความมั่นคงในอาชีพ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จะก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจแสนล้านบาท

          รัฐบาลมีนโยบายขยายผล ชุมชนไม้มีค่าเพื่อเกษตรกรไทย เพื่อให้ประชาชนเข้าใจความสำคัญและประโยชน์ของการปลูกไม้มีค่า โดยเตรียมมอบให้ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กรมป่าไม้ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (BEDO) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องในขับเคลื่อนชุมชนไม้มีค่า ร่วมผลักดันกลไกการดำเนินงาน ที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในเรื่องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการสร้างความมั่นคงทางอาชีพให้กับประชาชน

          โดยมีกลไกดำเนินงานบูรณาการร่วมกัน 3 เรื่องสำคัญ คือ การผลักดันกฎหมายและมาตรการเพื่อส่งเสริมให้ปลูกไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ การเพาะพันธุ์ ขยายพันธุ์ ปลูก และแปรรูป เพื่อให้ประชาชนที่ต้องการปลูกมีข้อมูลว่าจะปลูกอะไร ปลูกอย่างไร และมีพันธุ์ไม้ที่เหมาะสม และการส่งเสริมการใช้งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืน

          ทั้งนี้ รัฐบาลได้เตรียมกลไกผลักดันอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดการสนองผลตามนโยบายกลไกประชารัฐ และไทยนิยมยั่งยืน เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างยั่งยืน


ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก  :  http://www.naewna.com   วันที่ 17 กันยายน 2561