แต่งชีวิตด้วยความฝัน เติมประสบการณ์ด้วยความสุข
ให้คะแนนเนื้อหา
คะแนนเฉลี่ย 4.2 จำนวนผู้โหวด 13
วันที่ ปรับปรุง 6 พ.ค. 2558
เรื่อง : ปิยนาถ บุญญพันธุ์
ภาพ : สุวิชัย ธรรมลีลากุล
Smart Life ฉบับนี้ จะพาท่านไปรู้จักกับนักวิชาการที่คร่ำหวอดอยู่กับงานวิจัยและงานวิชาการ ที่ผันตัวเองมาสู่แวดวงธุรกิจความสวย ความงาม ผลิตอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและร่างกายที่งดงาม รศ.ดร.ณฐนนท์ ตราชูสประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวอรีน่าอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตอาหารเสริมบำรุงผิว ผลิตอาหารเสริมลดน้ำหนักและเพื่อสุขภาพ ผลิตเครื่องสำอางเพื่อผิวพรรณนวลกระจ่างใส
จากชีวิตที่เริ่มต้นและเติบโตที่อำเภอเล็กๆ น้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ที่ รศ. ดร.ณฐนนท์ บอกเล่าอย่างอารมณ์ดีถึงชีวิตการศึกษาในอดีต ที่มารดามองว่าเขาเป็นเด็กเรียนไม่เก่งและกลัวว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ว่า "เป็นเด็กบ้านนอก ยังจำได้เลยว่า เวลาไปโรงเรียน พี่เลี้ยงจะปันจักรยาน แล้วเราก็ซ้อนข้างหลัง เพราะบ้านอยู่ไกลโรงเรียนมาก พอมัธยมก็มาเรียนในเมืองขอนแก่น เรียนอยู่ที่โรงเรียนแก่นนคร จนถึง ม.6 ก็สอบเข้ามหาวิทยาลัย แล้วก็ไม่ได้เอนทรานซ์ ก็สอบเข้าที่ศรีนครินทรวิโรฒมหาสารคาม ตอนนั้นเขามีคณะเทคโนโลยี ซึ่งเป็น Food Science ก็สอบเข้าที่นี่ได้" ชีวิตนิสิตในรั้วมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยสีสันกับบทบาท "นักกิจกรรม" จนได้รับเลือกเป็น ประธานสภานิสิตเมื่อศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ซึ่งส่วนใหญ่ต้องเป็นโอกาสของนักศึกษาปีที่ 4 และกลายเป็นประธานสภานิสิตที่อายุน้อยที่สุด เมื่อใกล้จบการศึกษาการมองชีวิตของนักกิจกรรมท่านนี้ได้เปลี่ยนกลับ ด้วยการเปิดมุมมองชีวิตใหม่ให้กับตัวเองกับความฝันที่กว้างไกลกว่าจุดที่ตัวเองยืนอยู่ ณ ตอนนั้น คือการศึกษาต่อยังต่างประเทศพร้อมกับจบการศึกษาด้วยปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 1
ชีวิตที่สร้างคนให้แข็งแกร่งย่อมต้องมีอุปสรรค เฉกเช่นเดียวกับ รศ.ดร.ณฐนนท์ ที่ความฝันศึกษาต่อต่างประเทศต้องพับเก็บไว้และเริ่มต้นชีวิตอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กับความตั้งใจที่จะสอบชิงทุนการศึกษาเพื่อศึกษาต่อยังต่างประเทศ เมื่อโอกาสมาถึง รศ. ดร.ณฐนนท์ สามารถสอบชิงทุนรัฐบาล ทุน ก.พ. ไปศึกษาต่อปริญญาโทยังประเทศอเมริกาทางด้าน Daily Science และปริญญาเอกด้าน Food Science
นักศึกษาปริญญาเอกกลับมารับราชการชดใช้ทุนด้วยเงินเดือนเริ่มต้นเพียง 10,600 บาท รศ.ดร.ณฐนนท์ เล่าย้อนเหตุการณ์ในครั้งนั้นให้ฟังว่า "เจ้าหน้าที่บอกเงินเดือนหมื่นหก ผมก็คำนวณ หมื่นหก พออยู่ได้ มหาวิทยาลัยมีหอให้ หอก็แค่เดือนละ 500 บาท มีห้องน้ำในตัว เราจะอยู่แบบนี้ แต่มันไม่ใช่หมื่นหกพัน เป็นหมื่นหกร้อยบาท โอ้โห หายไปอีกตั้งเยอะ แล้วพ่อผมก็ป่วย ผมต้องส่งเงินไปให้พ่อใช้ แต่ก็อยู่ได้ ผมก็อยู่อย่างสมถะ" รศ.ดร.ณฐนนท์ มีความสุขกับการสอนหนังสือและทำงานบริหาร ในตำแหน่งสุดท้ายก่อนออกจากราชการคือตำแหน่งรองอธิการบดี มาเป็นระยะเวลา 13 ปี ก็ถึงจุดเปลี่ยนแปลง เมื่อตัดสินใจลาออกจากราชการเพื่อมาช่วยภรรยา คุณสุธาวัลย์ ตราชู ทำธุรกิจ เพราะ "ผมคิดว่า ผมไม่เหมาะจะเป็นนักวิชาการ" รศ.ดร.ณฐนนท์ กล่าวกับเราว่า "ผมเคยคิดถึงตัวเองอย่างนี้นะว่า คนบางคนเขามีทางเลือกในชีวิตมาก เช่นว่า สอบติดหลายที่อย่างนี้นะ มีอะไรเลือก ผมเป็นคนไม่ค่อยมีทางเลือกเลย เหมือนที่พี่ผมบอกว่าถูกขีดเส้นมาแล้ว คือผมต้องเลือกแบบนี้ ต้องไปอย่างนี้ แต่เหมือนสิ่งที่ผมได้รับมาเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้นนะ ผมก็รู้สึกโอเค ใครจะบอกว่าไม่ดี ผมก็พอใจของผมอยู่"ส
ต่อคำถาม กิจกรรมยามว่างเว้นจากงาน รศ.ดร.ณฐนนท์ ตอบว่า "กิจกรรมที่ทำทุกวันนี้ก็มีถ่ายรูป ไปท่องเที่ยวถ่ายรูปบ้าง แล้วก็ไปวัด ผมไปอยู่วัดเลย ถือศีล 8 ถามว่าเป็นกิจกรรมโปรดไหม การไปวัดไม่ใช่กิจกรรมที่โปรด แต่เป็นกิจกรรมที่ผมพยายามบังคับตัวเองให้ทำ เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีนะครับ เหมือนคนที่อยากจะสุขภาพดี ก็พยายามออกกำลังกาย แต่ถามว่าอยากทำไม ผมว่าบางทีผมก็เหนื่อยนะ แต่ว่าถ้าเราเห็นผลในสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น น้ำหนักคุณลด สุขภาพคุณดี เราก็อยากจะทำไปเรื่อยๆ อันนี้ก็เหมือนกัน ผมทำแล้วผมรู้สึกว่าจิตใจผมดี ผมไม่รู้น่ะ ผมว่ามันเป็นเรื่องข้างในของแต่ละคน ถ้ารู้สึกดีเราก็ทำ แล้วผมก็พยายามไปเรื่อยๆ"
รศ.ดร.ณฐนนท์ จบการสัมภาษณ์กับเราในวันนี้ด้วยปรัชญาการทำงานที่น่าสนใจ ฝากเราไว้ว่า "ทำอะไรก็ขอให้ทำให้จริงจัง แล้วก็ทำด้วยจิตใจที่ดีนะครับ ในการทำธุรกิจ ผมว่าไม่จำเป็นต้องละโมบมาก ต้องแบ่งปันทุกคนที่อยู่ข้างเราอย่างสมเหตุสมผลครับ"
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 3 - 6 พ.ค. 2558
