เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

กลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ทุ่งครุ เลี้ยงแพะเป็นสัตว์เศรษฐกิจ

ข่าววันที่ :25 มี.ค. 2562

Share

tmp_20192503111832_1.png

          เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา "นายกะหล่ำปลี" ได้เขียนถึงช่องทางการเลี้ยงแพะเนื้อมาครั้งหนึ่งแล้ว วันนี้จะมาตอกย้ำให้เกษตรกรได้เห็นว่าหากเราคิดต่อยอดกิจการที่เราดำเนินอยู่จะสามารถสร้างรายได้สร้างความมั่นคงได้อย่างดีทีเดียว ตัวอย่างเช่นที่เขตทุ่งครุหรือที่คนรุ่นเก่าจะคุ้นเคยในชื่อบางมด นอกจากจะมีส้มบางมดที่เลื่องชื่อ เป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในย่านนี้แล้ว ใครจะรู้บ้างว่ายังมีของดีที่ขึ้นชื่อไม่แพ้ส้มบาง มดอีกสิ่งหนึ่ง นั่นคือ "แพะ" ซึ่งนับได้ว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ชาวชุมชนทุ่งครุนิยมเลี้ยง เนื่องจากบริเวณนี้ประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม ซึ่งตามความเชื่อของศาสนาอิสลามต้องรับขวัญเด็กเกิดใหม่ โดยการแจกทานเนื้อแพะ ชาวบ้านจึงนิยมเลี้ยงทั้งแพะนมและแพะเนื้อ อีกทั้งนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สร้างรายได้ให้กับคน ในชุมชนนี้อย่างมาก "แพะ" จึงเป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับเกษตรกรในเขตทุ่งครุ


          เกษตรกรผู้เลี้ยงแพะในซอยพุทธบูชา 36 รวมตัวกันตั้งเป็น "กลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ทุ่งครุ" มีบทบาทสำคัญและเป็นศูนย์กลางในการนำเสนอข่าวสาร รวมถึงให้ความรู้สำหรับผู้สนใจด้านการเลี้ยงแพะสายพันธุ์ ต่อมาในปี 54 ได้รวมกลุ่มสมาชิก 35 คนในนามกลุ่มวิสาหกิจชุมชนดารุ้ลอิบาดะห์ พัฒนาและต่อยอดแปรรูปผลิตภัณฑ์จากนมแพะอีกหลายชนิด เช่น สบู่ ครีมอาบน้ำ โลชั่นบำรุงผิว นมแพะพาสเจอร์ไรซ์ โยเกิร์ต นมแพะ คุกกี้และทองม้วนนมแพะ โดยขอใช้พื้นที่ของมัสยิดรวมกลุ่ม ต่อมาได้ย้ายที่รวมกลุ่มเพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์นมแพะเข้ามาอยู่ในชุมชน เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจเข้ามาเที่ยวเยี่ยมชมฟาร์มแพะซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณบ้านของสมาชิก ได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์นมแพะสะดวกยิ่งขึ้น


          น.ส.กุสุมา อินสมะพันธ์ ประธานกลุ่มฯ เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการแปรรูปผลิต ภัณฑ์จากนมแพะ เริ่มจากสำนักงานเขตทุ่งครุได้เข้ามาสนับสนุนงบประมาณให้กลุ่มอาชีพเพื่อฝึกอบรมทำสบู่นมแพะ ก่อนจะค่อย ๆ ขยายผลไปทำโลชั่นนมแพะ และทำเป็นขนมที่มีส่วนผสมจากนมแพะ ทั้งคุกกี้และทองม้วนนมแพะ ซึ่งมีรสชาติหวานหอมกลิ่นนมแพะ เป็นของขึ้นชื่อเมื่อคนเดินทางมาเที่ยวในชุมชนแห่งนี้ ต้องซื้อติดมือกลับไปเป็นของฝาก ต่อมาสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพ มหานครพื้นที่ 1 กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้เข้ามาสนับสนุนต่อยอด โดยเชิญอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาอบรมวิธีการทำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ จนได้เป็นผลิตภัณฑ์โลชั่นบำรุงผิวที่มีสูตรเฉพาะซึ่งจะใช้นมแพะแท้ ๆ เป็นส่วนผสมหลัก และสบู่นมแพะ ซึ่งทำจากนมแพะผสมกับน้ำมันฮับบาดุซเซาดะฮ์ ซึ่งเป็นน้ำมันหอมกลิ่นเฉพาะของชาวมุสลิม ฮับบาดุซเซาดะฮ์ เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีเม็ดเล็ก ๆ เหมือนงา คนจีนเรียกว่าน้ำมันเทียนดำ กินได้ มีประโยชน์ช่วยต่อต้านและรักษาโรคมะเร็งได้ดี และหากใช้กับผิว จะช่วยรักษาโรคผิวหนังฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้โดยไม่ต้องใช้สารเคมี


          สมาชิกทุกคนสามารถทำได้ทุกผลิตภัณฑ์ โดยจะใช้เวลาว่างจากงานประจำ มารวมกันแปรรูปนมแพะทำให้มีรายได้เสริมเดือนละประมาณ 1,500-2,000 บาท/คน และนอกเหนือจากนมแพะที่นำมาแปรรูปแล้ว ทางกลุ่มได้เริ่มทำปลาบูดูจำหน่ายควบคู่กับนมแพะแปรรูปด้วย เนื่องจากสมาชิกบางส่วนมีอาชีพเลี้ยงปลานิล กลุ่มจึงรับซื้อปลาสดของสมาชิกมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ครั้งละประมาณ 100 กิโลกรัม ทุก ๆ 2 เดือนจะมารวมตัวกันทำปลาบูดูจำหน่าย กรรมวิธีคล้ายการทำปลาร้า นำปลามาล้างทำความสะอาด และหมักเกลือทิ้งไว้ 1 คืน ก่อนจะนำมาใส่ส่วนผสม กระเทียม ข้าวคั่ว ระหว่างทำจะต้องสะอาด มีผ้าปิดมิดชิด ไม่ให้มีแมลงวันตอม จากนั้นนำไปหมักต่อในไห ประมาณ 15-21 วัน จึงจะนำมารับประทานได้ สามารถนำมา ทอด หลนเต้าเจี้ยว หรือนำเข้าไมโครเวฟ ก็นำออกมารับประทานได้ทันที ทางกลุ่มฯ จะนำปลาบูดูออกไปวางขายคู่กับผลิตภัณฑ์จากนมแพะ เป็นปลาบูดูบรรจุถุงแบบสุญญากาศ กิโลกรัมละ 120 บาท ใครสนใจจะสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนดารุ้ลอิบาดะห์ ติดต่อ น.ส.กุสุมา โทร.08-3024-8107, 08-6936-8299 หรือ facebook : วิสาหกิจชุมชนดารุ้ลอิบาดะห์

 

ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก  :  เดลินิวส์  25 มีนาคม 2562