เกร็ดน่ารู้ เรื่อง แกล้งกล้วยออกปลีกลางต้นวิถีเกษตร "ปิยะพงษ์ วงศรีลา"
กวินทรา ใจซื่อ
การทำเกษตรอินทรีย์ผสมผสานของ "ปิยะพงษ์ วงศรีลา" วัย 33 ปี เกษตรกร ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ที่ทำมาเกือบ 4 ปี มีพืชผักสวนครัว ไม้ยืนต้นกว่า 100 ชนิด บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ ทำให้มีผลผลิตขายทั้งปี โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้าซึ่งเป็นรายได้หลักใช้เทคนิคปลูก "บังคับออกปลีกลางต้น"
โดยในพื้นที่ปลูกทั้งกล้วยไข่ กล้วยหอม เดิมใช้วิธีปลูก ดูแลรักษาและให้กล้วยน้ำว้าแทงปลีตามธรรมชาติ แต่กล้วยจะมีต้นสูงใหญ่ ทำให้ต้องหาไม้มาค้ำยัน เก็บเกี่ยวยาก และหากมีลมพายุต้นกล้วยก็จะหักโค่น ทำให้ผลผลิตเสียหายขายไม่ได้ราคา จนปี 2554 พบข้อมูลของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่ได้ศึกษาวิธีบังคับกล้วยให้แทงเครือกลางลำต้นจึงนำองค์ความรู้มาทดลองทำ พบว่าได้ผลดี ทั้งจัดการง่าย ส่วนผลผลิตที่ได้ก็ไม่ต่างจากการแทงเครือแบบธรรมชาติ
ปิยะพงษ์ เริ่มทดลองแกล้งกล้วยจากกล้วยน้ำว้าก่อน โดยเลือกต้นที่มีอายุ 7-8 เดือน เพราะเป็นช่วงที่กล้วยสมบูรณ์ ต้นใหญ่พร้อมจะออกปลี ทั้งต้องสังเกตที่ใบธง หากใบธงชูก้านใบ มีลักษณะม้วนหลวม เป็นระยะที่เหมาะในการเจาะลำต้น โดยให้เจาะห่างจากพื้น 160 เซนติเมตร ระดับความสูงที่พอเหมาะสำหรับการจัดการดูแลและการเก็บเกี่ยวผลผลิต
"จากนั้นใช้มีดคมเจาะเป็นสี่เหลี่ยมเข้าไปให้ถึงกลางลำต้น แล้วใช้ฟิวเจอร์บอร์ดปิดด้านบน เพื่อบังคับให้ปลีกล้วยทะลุออกกลางลำต้น ราว 2 อาทิตย์ ปลีกล้วยจะแทงออกมา จากนั้นใส่ปุ๋ยคอก รดน้ำบำรุง เมื่อทดลองใช้วิธีนี้พบว่าดูแลง่าย เก็บผลผลิตได้เร็ว ไม่ต้องทำค้ำยัน" ปิยะพงษ์แจง ทั้งบอกว่าอนาคตจะทดลองกับกล้วยไข่ และกล้วยหอม
อีกทั้งปิยะพงษ์ยังได้รวบรวมเกษตรกรในหมู่บ้านที่สนใจทำเกษตรผสมผสาน รวมกันเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรสวนกระแส ปัจจุบันมีสมาชิก 12 คน มีกิจกรรม ทั้งทดลองหาวิธีใหม่ๆในการเพิ่มผลิต ลดเวลาทำงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ศึกษาดูงาน ทำให้มีพลังต่อรองกับพ่อค้าคนกลาง กำหนดราคาสินค้า พร้อมเปิดพื้นที่เป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ไว้ให้ผู้สนใจเข้ามาศึกษาด้วย
ขอบคุณข้อมูลและภาพข่าวจาก : http://www.komchadluek.net