เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการ E-clipping » รายละเอียด E-clipping
กฟผ.ดึงปาล์มผลิตไฟฟ้าปีหน้า

          นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.ได้ใช้งบลงทุนกว่า 52 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงโรงไฟฟ้ากระบี่ จ.กระบี่ กำลังการผลิต 340 เมกะวัตต์ ให้สามารถใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าควบคู่กับการใช้น้ำมันเตาได้ด้วย เพื่อช่วยเหลือผู้ปลูกปาล์มที่ได้รับผลกระทบจากราคาตกต่ำ

          "เมื่อปี 2526 กฟผ.ทดลองเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าโดยใช้น้ำมันปาล์มดิบมาแล้ว แต่หากต้องการให้โรงไฟฟ้าสามารถผลิตไฟฟ้าได้จากน้ำมันปาล์มอย่างถาวร จะต้องมีการลงทุนปรับปรุงโรงไฟฟ้าและก็ได้ลงทุนไปแล้ว ซึ่งจะทำให้มีการใช้น้ำมันปาล์มดิบ 1 หมื่นตัน/เดือน เพื่อผลิตไฟฟ้าแทนการใช้น้ำมันเตา" นายสุนชัย กล่าว

          อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันน้ำมันปาล์มดิบ 1 ลิตร สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 4 หน่วย หรือมีต้นทุนอยู่ที่ 3.47 บาท/หน่วย ส่งผลให้การผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันปาล์มมีต้นทุนสูงกว่าน้ำมันเตาที่มีต้นทุนการผลิต 2.79 บาท/หน่วย หรือต่างกันประมาณ 1 บาท/หน่วย ดังนั้น ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจะต้องถูกนำไปรวมในการคำนวณค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที)

          นายสุนชัย ระบุว่า หากจะนำน้ำมันปาล์มดิบมาผลิตไฟฟ้าแทนน้ำมันเตาจะต้องเสนอให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ให้ความเห็นชอบในการปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องใช้เวลา 8 เดือน ทำให้ปีนี้ กฟผ.น่าจะยังไม่สามารถซื้อน้ำมันปาล์มดิบมาผลิตไฟฟ้าได้

          นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า ในไตรมาส 2 ปีนี้ คาดว่าผลผลิตปาล์มน้ำมันในภาคใต้จะอยู่ที่ 3.7 ล้านตัน ลดลง 2% จากที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากปัญหาภัยแล้งในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา และคาดว่าราคาผลผลิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 5 บาท/กิโลกรัม ได้ จากปัจจุบันที่มีราคา 4 บาท/กิโลกรัม

          นายเลอศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ปรากฏว่าโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มบางแห่งเริ่มมีการเก็งกำไรและรับซื้อผลปาล์มน้ำมันเข้าผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาผลปาล์ม ณ หน้าโรงงานของภาคใต้ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน พ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างที่ 4.1-4.4 บาท/กิโลกรัม และอาจเพิ่มขึ้นได้อีกหลังปริมาณผลผลิตน้ำมันปาล์มในมาเลเซียมีแนวโน้มลดลงจากภาวะฝนทิ้งช่วง ในขณะที่ความต้องการในตลาดโลกเพิ่มมากขึ้น


ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  19 พ.ค. 58  หน้า B11