รังสี ลิมปิโชติกุล รายงาน
นายบุญนำ มีชาลือ ผู้จัดการกลุ่มเกษตรกรผู้เพาะเห็ดบ้านเชิงสะพาน หมู่ 6 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี เล่าให้ฟังว่าที่ผ่านมาคนในชุมชนบ้านเชิงสะพาน ประกอบอาชีพทำนาเป็นส่วนใหญ่ เมื่อว่างจากการทำนาก็ออกไปรับจ้างตามที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม หรือรับจ้างทั่วไป จนเมื่อปี 48 คนในชุมชนร่วมกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีอาชีพเสริม เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยที่ไม่ต้องออกไปรับจ้างภายนอก ได้อาจารย์วาสนา ชัยยุทธ์ ซึ่งเป็นอาจารย์จาก กศน. ต.เจดีย์หัก กับคณะกรรมการหมู่บ้านชุมชนบ้านเชิงสะพาน ร่วมจัดเวทีเสวนา สำรวจความต้องการทางอาชีพเสริมรายได้ให้คนในชุมชนเพื่อจะได้อยู่กับบ้าน อยู่กับครอบครัว ซึ่งขณะนั้นมอง "การเพาะ เห็ดหูหนู" น่าจะเป็นตัวสร้างรายได้เสริมที่ดีอีกทางหนึ่ง เนื่องจากการเพาะเห็ดหูหนู มีวิธีการที่ไม่ยากและดูแลง่าย
หลังที่ประชุมลงมติสนับสนุนให้ "เพาะเห็ดหูหนู" คนในชุมชนจึงรวมกลุ่มกันได้ประมาณ 20 คน และ กศน. ต.เจดีย์หัก ได้จัดวิทยากรมาอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับ "การเพาะเห็ดหูหนู" จนได้จัดตั้งกลุ่มอย่างเป็นทางการ มีสมาชิกครั้งแรกประมาณ 30 คน มี นายสละ นิ่มนวล เป็นประธานกลุ่มคนแรก สมาชิกที่เหลือเป็นคณะกรรมการ ตอนนั้นสั่งซื้อก้อนเห็ดมาจากที่เค้าผลิตขาย แล้วนำก้อนเห็ดมาเพาะเลี้ยงต่อเท่านั้น ทำให้ผลผลิตได้คุณภาพไม่ค่อยดี ออกไม่ตรงตามเป้าหมายที่คาดไว้ รวมถึงสินค้าที่สั่งไม่เพียงพอต่อความต้องการในชุมชน ทางกลุ่มผู้เพาะเห็ดหูหนูจึงได้มีแนวความคิดที่จะผลิตก้อนเชื้อเห็ดเอง เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับผู้เพาะเห็ดในชุมชนได้ใช้ จึงได้ขอรับการสนับสนุนจาก กศน.ตำบลเจดีย์หัก ในการจัดอบรมการทำก้อนเชื้อเห็ดขึ้นและจัดตั้ง "กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเพาะเห็ดหูหนูบ้านเชิงสะพาน" ขึ้นมาในปี 2552 โดยได้มีการทำโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนตำบลเจดีย์หักและโรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ราชบุรี ได้จัดสรรงบประมาณมาจำนวนหนึ่งในการจัดทำ เตานึ่ง 1 ลูก เครื่องโม่ขี้เลื่อย 1 ตัว และตะแกรง 200 ใบ เพื่อผลิตก้อนเชื้อเห็ดให้กับคนในชุมชน ในช่วงแรกนั้นตั้งเป้าการผลิตก้อนเชื้อเห็ดไว้ประมาณเดือนละ 30,000 ก้อน เพื่อส่งให้กับสมาชิกในหมู่บ้านเชิงสะพาน ปัจจุบันในปี 2561 ทางกลุ่มมีสมาชิกทั้งสิ้น 128 ราย และได้มีการจดทะเบียนขึ้นเป็น "กลุ่มเกษตรกรผู้เพาะเห็ดบ้านเชิงสะพาน" ซึ่งมียอดที่ต้องผลิตก้อนเชื้อเห็ดให้กับชุมชนบ้านเชิงสะพาน จำนวน 140,000 ก้อน ต่อเดือน โดยส่งให้กับชุมชน 70 เปอร์เซ็นต์ และส่งให้กับภายนอกอีก 30 เปอร์เซ็นต์
นายบุญนำ กล่าวเสริมว่า หลังจากที่ได้จัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จนพัฒนาเป็น กลุ่มเกษตรกรผู้เพาะเห็ดบ้านเชิงสะพาน จากความร่วมมือของชุมชนที่ต้องการหารายได้เสริมให้ครอบครัวหลังจากเสร็จสิ้นฤดูกาลทำนา ในปัจจุบันในชุมชนแห่งนี้เพาะเห็ดหนูหูเกือบทุกครัวเรือน ทำให้คนในชุมชนบ้านเชิงสะพานมีอาชีพ มีรายได้เสริมที่มั่นคง โดยเฉพาะการมุ่งเน้นการจ้างแรงงานของคนภายในชุมชนเอง โดยคนในชุมชน ไม่ต้องไปหางานทำภายนอก ใครที่ตกงาน ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือผู้สูงอายุ สามารถมาทำได้ทุกคน ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่เข้ามาทำงานให้กับกลุ่ม อยู่ประมาณวันละ 30 คน ซึ่งในชุมชนบ้านเชิงสะพานมีโรงเรือนเพาะเลี้ยงเห็ดหูหนูอยู่ทั้งสิ้นประมาณ 1,000 โรงเรือน 1 โรงเรือนสามารถให้ผลผลิตได้ประมาณ 500 กิโลกรัมต่อเดือน รวมแล้ว ชุมชนบ้านเชิงสะพาน สามารถผลิตเห็ดหูหนูเข้าสู่ตลาดได้เดือนละประมาณ 5,000 กิโลกรัม ต่อเดือน ซึ่งในปัจจุบันกลุ่มเกษตรกรผู้เพาะเห็ดบ้านเชิงสะพาน เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่สนใจ
นายบุญนำ กล่าวถึงปัญหาเรื่องของตลาดที่จะมารับซื้อซึ่งยังคงจะต้องผ่านพ่อค้าคนกลางที่เป็นผู้กำหนดราคา ทำให้ราคาในแต่ละวันนั้นไม่เท่ากัน ซึ่งขณะนี้ทางกลุ่มกำลังหาแนวทางในการที่จะหาตลาดให้กับชุมชนให้เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการควบคุมคุณภาพ GIP ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้รวมทั้งช่วยหาแนวทางในการทำให้ผลผลิตนั้นเป็นที่นิยมของผู้บริโภค และอาจจะทำการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่นในช่วงที่เห็ดหูหนูนั้นมีราคาตกต่ำ
สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะหาข้อมูลและเรียนรู้วิธีการทำเห็ดหูหนูสามารถติดต่อได้ที่ กลุ่มเกษตรกรผู้เพาะเห็ดบ้านเชิงสะพาน เลขที่ 13 หมู่ที่ 6 บ้านเชิงสะพาน ตำบลเจดีย์หัก อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี 70000 โทร. 08- 5183-2577 บุญนำ มีชาลือ
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2561