พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือกับ 9 กระทรวง และ กรุงเทพมหานครว่า เพื่อขอความ ชัดเจนถึงความต้องการใช้ยางในประเทศรวมจำนวน 3.5 หมื่นตันและสามารถจัดซื้อจัดจ้าง ภายใน3 เดือน(ก.ค.-ก.ย.2560)โดยใช้งบประมาณปี 2560 เพื่อกระตุ้นการใช้ยางในประเทศ ช่วย ยกระดับราคายางพาราตามคำสั่ง นายกรัฐมนตรี เพื่อดูดปริมาณยางออกจากระบบ ดันราคายางพาราที่เกษตรกรขายได้ให้มีเสถียรภาพ
การใช้ยางในประเทศที่ผ่านมาไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเป็น รูปธรรม มีปัญหาด้านมาตรฐานสินค้าที่ทำจากยางพาราไม่มีการรับรอง เพราะการจะนำยางพาราไปผลิตสินค้าอย่างใด อย่างหนึ่ง จำเป็นต้องมีมาตรฐาน แต่เนื่องจากในปีที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานใด ให้การรับรอง จึงส่งผลให้ไม่สามารถนำยางไปใช้ตามเป้าประสงค์ของหน่วยงาน ภาครัฐได้ ดังนั้นกระทรวงเกษตรฯจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งเพื่อเร่งรัดดำเนินการมาตรฐานที่ควรจะมี
นอกจากนี้ การใช้ยางพารา ในประเทศยังมีอุปสรรคเรื่องของ งบประมาณ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ ตั้งงบประมาณไว้ แม้จะมีการสั่งการ ให้ดำเนินการ แต่เมื่อไม่มีงบประมาณ ก็ไม่สามารถดำเนินการได้
"ยอมรับเรื่องงบประมาณเป็นอุปสรรคกับการกระตุ้นการใช้ยางในประเทศตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี เพราะหน่วยงานที่มีความต้องการใช้ยางพารา และมีมาตรฐานรองรับ แล้วนั้น ไม่ได้บรรจุวงเงินงบประมาณ ในปี 2560 ไว้ทำให้ไม่สามารถดำเนินการ ได้ และในงบประมาณ ปี 2561 ก็ไม่แน่ใจ มีหรือไม่ แต่ผมจะเร่งรัดให้ใช้ยางในประเทศปีนี้ให้ได้ 3.5 หมื่นตัน ส่วนหน่วยงานที่มีความต้องการใช้ยาง มากที่สุดคือ กระทรวงมหาดไทยกว่า 2 หมื่นตัน โดยจะรายงานความคืบหน้า ทั้งหมดให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ ต่อไป " พล.อ. ฉัตรชัยกล่าว
นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยาง แห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า การหารือเพื่อรวบรวมปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศ ครั้งล่าสุด ได้เพิ่มอีก 2 กระทรวง คือกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงวัฒนธรรม และ เมื่อเดือนมี.ค.2560 มีการรวบรวมความต้องการใช้ยางพาราในประเทศจาก 8 หน่วยงานที่ นายกรัฐมนตรีสั่งให้ ดำเนินการกระตุ้นการใช้ยางพารา ในประเทศ ทั้งหมด 28,692.12 ตัน แบ่งเป็น น้ำยางข้น 27,646.26 ตัน และ ยางแห้ง 1,045.86 ตัน
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 16 มิถุนายน 2560
eclipping_20142312180924_1.doc: ขนาด 25.5 KB