"กระทรวงเกษตรฯ" ใช้พรบ.ควบคุมยาง ตรวจสต็อกผู้ส่งออก หาคนปล่อยข่าวบิดเบือน ทำราคายางตกต่ำ ขณะที่สั่งกยท.บินถกไตรภาคี 3 ประเทศ ร่วมแก้ราคาตกต่ำ
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เพื่อแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ กระทรวงเกษตรฯได้ออก 3 มาตรการ คือ 1.ให้ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ควบมคุมยาง พ.ศ. 2542 ของกรมวิชาการเกษตรเป็น ผู้ดำเนินการ ตรวจสอบสต็อกยางของผู้ส่งออก ว่ามีการกักตุน หรือทุบราคายางหรือไม่ ตลอดจน หาข่าวที่มาสร้างความบิดเบือนจนราคายางตก
นอกจากนี้ เร่งรัดให้มีการ ใช้ยางในประเทศอย่างจริงจัง โดยจะหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องอุปสรรค ปัญหา เพื่อให้ เกิดการใช้รูปธรรม จากที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้ หน่วยงานรัฐซื้อยางในประเทศ เพื่อใช้ในกิจกรรมขององค์กร แต่ก็ติดขัดในเรื่องกฎหมายต่างๆ ทำให้ล่าช้า และยังไม่เป็นรูปธรรม เช่น สินค้ายางจะต้องได้รับมาตรฐานให้เป็นไปตามระเบียบราชการ ซึ่งกว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปตรวจสอบสินค้านั้นๆ ใช้ระยะ เวลานาน เป็นต้น
สำหรับ โครงการสนับสนุน สินเชื่อตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ เช่น โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ ผู้ประกอบกิจการยาง วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท โครงการสนับสนุนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยางพารา วงเงิน 1 หมื่นล้าน
นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ นายธีธัช สุดสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) เดินทางไปอินโดนีเซียวันที่ 17-18 มิ.ย.นี้ เพื่อร่วมประชุมสภาไตรภาคียางพารา ระหว่าง อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย โดยจะหารือถึงการ กำหนดโควตาการส่งออก ปริมาณการผลิตเพื่อกระตุ้นให้ราคายางสูงขึ้น
นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการ กยท. กล่าวว่า ราคายางพาราที่ ปรับตัวลดลงอย่างผิดปกติ เกิดจาก หลายปัจจัยเช่น ราคาน้ำมันดิบ อัตราแลกเปลี่ยน และล่าสุดรัฐบาลจีนมีการปล่อยสต็อกยางจำนวน 1 แสนตันเข้าสู่ระบบ แต่กยท. มีแนวทางในการักษาเสถียรภาพราคายางในระยะยาว เป็นมาตรการ ที่ดำเนินการมานาน และยัง ดำเนินการอยู่ ดังนี้คือ 1. การส่งเสริม การใช้ยางในประเทศ 2.การกระตุ้น การแปรรูปยางพาราภายในประเทศ และการลดพื้นที่เพราะปลูกยาง ปีละ 4 แสนไร่
สำหรับการร่วมหารือระหว่างประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ ที่ ประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่มีผลผลิตรวมกันประมาณ 70% ของผลผลิตทั่วโลก มีหลายแนวทางที่จะออกมาสกัดราคายางในตลาดล่วงหน้า เพื่อไม่ให้ กดราคายางใน 3 ประเทศ
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 15 มิถุนายน 2560 หน้า 6