วานนี้(27 เม.ย.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างการเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้นำคณะหารือกับสมาคมผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง 4 สมาคม เพื่อหารือถึงสถานการณ์การค้าข้าวไทย - ฮ่องกง และแนวทางการขยายตลาดข้าวในฮ่องกง โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดข้าวไทยในตลาดฮ่องกงเป็น 70% จากปัจจุบันสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้ประมาณ 68% ของตลาดข้าวทั้งหมดในฮ่องกง
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าปัจจุบันฮ่องกงนำเข้าข้าวจากไทยประมาณ 3 แสนตันต่อปี โดยส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าข้าวหอมมะลิ ซึ่งข้าวไทยเป็นที่นิยม มากในฮ่องกง โดยในอดีตข้าวไทย เคยครองสัดส่วนตลาดข้าวฮ่องกงสูงถึง 90% และสูญเสียสัดส่วนตลาดไปจนเหลือแค่ 40% ในช่วงที่มีโครงการ รับจำนำข้าว
อย่างไรก็ตามภายหลังจากยกเลิกโครงการจำนำข้าวทำให้ราคาข้าวของไทยสามารถแข่งขันได้และมีความเชื่อมั่นในคุณภาพข้าวของไทยมากขึ้น สัดส่วนการนำเข้าข้าวไทยในฮ่องกงจึงปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาและปัจจุบันสามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดกลับมาจากคู่แข่งอย่างเวียดนามได้ทำให้ไทยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดข้าวในฮ่องกงได้ 68%
"ตั้งเป้าว่าในปีนี้จะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกข้าวมายังตลาดฮ่องกงให้สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดให้ได้ 70% ซึ่งก็ได้หารือกับผู้นำเข้าข้าวในฮ่องกง เกี่ยวกับมาตรฐานข้าวที่เรากำหนดใหม่ซึ่งจะช่วยยืนยันถึงคุณภาพข้าวของไทย" นางอภิรดีกล่าว
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า สถานการณ์การส่งออกข้าวของไทยขณะนี้ปรับตัวดีขึ้นกว่าใน 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาข้าวไทยกลับสู่วงจร ราคาปกติที่ไม่ได้แพงกว่าคู่แข่งมากจนเกินไป โดยหากราคาข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่งอย่างเวียดนามประมาณ 30 - 40 ดอลลาร์/ต่อตันถือเป็นราคาที่ผู้นำเข้าข้าว ในตลาดต่างๆยอมรับได้
สำหรับสัดส่วนการส่งออกข้าวมายังตลาดฮ่องกงซึ่งตั้งเป้าจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดไว้ที่ระดับ 70% มองว่า สามารถทำได้เนื่องจากขณะนี้ไทยมี สัดส่วนอยู่ที่ 68% ในช่วงปลายปีซึ่ง ข้าวในฤดูกาลผลิตใหม่จะออกสู่ตลาดคาดว่าปริมาณการส่งออกมายังตลาดฮ่องกงจะเพิ่มขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 28 เมษายน 2560
eclipping_20142312172252_1.doc: ขนาด 24.5 KB