เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการ E-clipping » รายละเอียด E-clipping
ออร์เดอร์ส่งออกสับปะรดเมืองประจวบโตฉลุยโรงงานแปรรูปเฮภัยแล้งคลี่คลายผลผลิตเพียงพอเฉียดล้านตัน

          นายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมสับปะรดไทย และกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เนเชอรัลฟรุต จำกัด โรงงานแปรรูปสับปะรดรายใหญ่อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นแหล่งผลิตใหญ่ของอุตสาหกรรมแปรรูปสับปะรดเพื่อการ ส่งออก มีโรงงานแปรรูปประมาณ 15 แห่ง ซึ่งภาพรวมการส่งออกในปี 2560 ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง จากปัจจัยบวก คำสั่งซื้อตลาด ยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เติบโตขึ้นทุกปี ทำให้โรงงานต้องเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น

          ขณะที่สถานการณ์ราคาสับปะรดผลสดหน้าสวนปรับตัวลดลงเหลือ 7 บาท/กิโลกรัม จากเมื่อปี 2559 ราคาสูงสุดอยู่ที่ 13 บาท/กก. ส่งผลดีต่อโรงงานแปรรูปทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ขณะเดียวกันประเทศคู่ค้าได้มีการขอปรับลดราคาซื้อขายสับปะรดกระป๋องลงเล็กน้อยเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่แท้จริง สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาลดลง คือ ปัญหาภัยแล้งเริ่มคลี่คลายทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น

          "คู่ค้าต่างประเทศได้ขอปรับลดราคาสับปะรดกระป๋องจากไทย ซึ่งมีฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่ยินยอม โดยให้เหตุผลว่าช่วงที่ราคาสับปะรดผลสดปรับขึ้นสูงสุด ประสบปัญหาภัยแล้ง ผู้ประกอบการก็ไม่ได้ขอปรับขึ้นราคา จึงเห็นว่าไม่สมควรที่จะลดราคาลง จึงต้องเร่งชี้แจงให้คู่ค้าเข้าใจเรื่องต้นทุนการผลิต" นายวิรัชกล่าว

          สำหรับการแข่งขันในตลาดโลกยังอยู่ในภาวะปกติ โดยมีประเทศคู่แข่งทางการค้า ที่สำคัญ คือ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ แต่ปัจจุบันไทยยังครองมาร์เก็ตแชร์สับปะรดกระป๋องทั่วโลกถึง 40% จุดแข็ง ของสับปะรดกระป๋องไทย คือ รสชาติยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค ซึ่งผลผลิต ส่วนใหญ่มาจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีมูลค่าตลาดสับปะรดผลสดและแปรรูป สูงถึง 40,000 ล้านบาท/ปี

          หนุนปลูกพันธุ์ MD2 กินผลสด

          ด้านนายมงคล จอมพันธ์ เกษตร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ผลผลิตสับปะรดปี 2560 ว่า หลังจากที่ปัญหาภัยแล้งเบาบางลง และผลผลิตที่เกษตรกรแห่ปลูกช่วงที่ราคาสูงก็จะเริ่มทยอยออกปีนี้ ทำให้ผลผลิตจะออกสู่ตลาดจำนวนมาก แต่ไม่ถึงขั้นภาวะสินค้าล้นตลาด และราคาผันผวนจนเกินไป เพราะโรงงานส่วนใหญ่จะประกันราคาให้เกษตรกรขั้นต่ำอยู่ที่ 7 บาท/กก. ซึ่งเป็นราคาระดับกลาง จะไม่ส่งผลกระทบต่อโรงงานและเกษตรกร

          ปัจจุบันเกษตรกรส่วนใหญ่จะเน้นการปลูกสับปะรดสายพันธุ์ปัตตาเวีย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่เหมาะเฉพาะการแปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋องเพื่อการส่งออกเท่านั้น และราคาผันผวนเป็นระยะ ๆ ในอนาคตจะส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกสับปะรดพันธุ์ MD2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์จากอเมริกา เหมาะกับการรับประทานผลสด หรือส่งออกในรูปแบบผลสด จุดเด่นของสายพันธุ์นี้คือสามารถอยู่ได้นานกว่าพันธุ์อื่น ๆ จึงเหมาะแก่การส่งออก

          สำหรับแผนการส่งเสริมจะเข้าไปแจกกล้าพันธุ์ และให้ความรู้วิธีการปลูก การดูแลรักษา โดยจะให้เกษตรกรปลูกเสริมกับสายพันธุ์ปัตตาเวีย เพื่อลดความเสี่ยง หากราคาผันผวนเกษตรกรสามารถนำสับปะรด MD2 มาจำหน่ายผลสดได้ ซึ่งมีแนวโน้มการบริโภคผลสดจะสูงขึ้นทั้งในต่างประเทศและในประเทศ

          คาดผลผลิตมากถึง 9.2 แสนตัน

          นายสมพงษ์ ไก่แก้ว นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ สำนักงานเกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ปีนี้ผลผลิตสับปะรดจะออกสู่ตลาดมากถึง 9.2 แสนตัน จากเมื่อปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 8.6 หมื่นตัน หรือเพิ่มขึ้นราว 60,000 ตัน ส่วนพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นจาก 4.2 แสนไร่เป็น 4.5 แสนไร่ ทำให้ปีนี้ผลผลิตจะเพียงพอต่อการแปรรูปในอุตสาหกรรมสับปะรด เนื่องจากปีที่ผ่านมา ประสบปัญหาภัยแล้งผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของโรงงานแปรรูป โดยผลผลิตจะออกสู่ตลาดสูงสุดประมาณเดือนมกราคม-ต้นเดือนมีนาคมของทุกปี

          ขณะที่นายณัฐที พรหมเชื้อ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมและจัดหาวัตถุดิบ บริษัท สยามอุตสาหกรรมการเกษตร สับปะรด และอื่น ๆ จำกัด (มหาชน) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า บริษัทผลิตสับปะรดแปรรูปกระป๋องส่งออกต่างประเทศ 100% ได้แก่ อเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น โดยคู่แข่งทางการค้าที่สำคัญ คือ ฟิลิปปินส์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้รับซื้อสับปะรดจากเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชุมพร อุตรดิตถ์ และหนองคาย ในราคา 6.80 บาท/กิโลกรัม หากเทียบกับปีที่ผ่านมา ราคาอยู่ที่ 13 บาท/กก. ซึ่งถือว่าลดลงไปมาก เนื่องจากปีนี้มีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ส่งผลให้ปรากฏการณ์การแย่งผลผลิตไม่ค่อยเกิดขึ้นให้เห็นนัก

          ขณะเดียวกันก็เริ่มมีเกษตรกรหน้าใหม่เข้ามาขายผลสับปะรดให้กับโรงงานมากขึ้น ทั้งนี้ในปี 2560 บริษัทตั้งเป้าใช้สับปะรดในการแปรรูปประมาณ 150,000 ตัน/ปี และคาดว่าจะเกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้

 

          บรรยายใต้ภาพ

          ผลผลิตมาก - แนวโน้มผลผลิตสับปะรดผลสดจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์แหล่งผลิตใหญ่ ปีนี้จะออกสู่ตลาดมากกว่าทุกปี ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาภัยแล้งคลี่คลาย และ เกษตรกรเพิ่มพื้นที่ปลูก ทำให้ราคาหน้าสวนลดลงอยู่ที่ 7 บาท/กก. จากเมื่อปี 2559 สูงสุดอยู่ 13 บาท/กก.

 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 2 - 5 ก.พ. 2560



เอกสารที่เกี่ยวข้อง