เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการ E-clipping » รายละเอียด E-clipping
ลดประชานิยมคลังชวนทำประกันนาข้าว

          วารุณี อินวันนา

          โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558 เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกในรอบ 5 ปี เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่โรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วิทยาคม จ.อ่างทอง มี สมหมาย ภาษี รมว.คลัง เป็นประธานเปิดงาน

          ทั้งนี้ รมว.คลัง ได้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออกแรงในการดึงให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปีมาทำประกันภัยข้าวนาปีในปีการผลิต 2559 เพิ่มเป็น 3 ล้านไร่ จากเป้าหมายเดิม 1.5 ล้านไร่ เพราะเป็นประโยชน์สำหรับเกษตรกร และจะทำให้ได้ราคาเบี้ยประกันภัยที่ถูกลงอีก และอาจได้ความคุ้มครองเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเป็นคำสัญญาที่ทางบริษัทประกันภัยให้ไว้

          ปีนี้โครงการประกันภัยข้าวนาปีมีความพร้อมมากที่สุด เพราะส่วนงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กรมส่งเสริมการเกษตร สมาคมประกันวินาศภัยไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และ ธ.ก.ส. ได้วางแผนและเจรจาต่อรองกับบริษัทประกันภัยต่อต่างประเทศ ทำให้เบี้ยประกันภัยลดต่ำกว่าที่ผ่านๆ มา   รวมถึงยังมีบริษัทที่เข้าร่วมเพิ่ม จาก 4 เป็น 7 แห่ง จากปีที่ผ่านมา คือ บริษัท กรุงเทพประกันภัย บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย บริษัท ทิพยประกันภัย บริษัท ทูนประกันภัย

          สมหมาย กล่าวว่า ปีนี้ที่วางไว้ว่าจะมีเกษตรกรทำประกันภัยข้าวนาปี 1.5 ล้านไร่ เป็นไปได้แน่ เพราะเปิดโครงการรับประกันภัยเร็วขึ้น ทำให้มีเกษตรกรมาทำประกันราว 8 แสนกว่าราย

          "ปีนี้ได้ขอให้ ธ.ก.ส.ออกแรงเยอะหน่อย เพราะเป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเกิดความเสียหายจากภัยพิบัติหรืออะไร เกษตรกรก็ได้ ขณะที่รัฐบาลออกเงินอุดหนุนเบี้ยให้เกือบพันล้านบาท เกษตรกรออกเองน้อย ถ้าเสียหายเกิดขึ้นเกษตรกรรับเงินชดเชยทั้งจำนวน รัฐบาลเห็นหน้าเกษตรกรมีความสุขก็สบายใจ" สมหมาย กล่าว

          สำหรับประกันภัยจะจ่ายชดเชยความเสียหายที่เกิดจาก 7 ภัยธรรมชาติ คือ น้ำท่วม แล้ง ลมพายุ อากาศหนาว ลูกเห็บ และไฟไหม้ จากประกันภัยไร่ละ 1,111 บาท ส่วนศัตรูพืชและโรคระบาด ก็จะได้รับการชดเชยจากประกันภัยไร่ละ 555 บาท และจะได้เงินอุดหนุนจากภาครัฐด้วย

          หากเกิดความเสียหายขึ้น หลังจากมีมติ ครม.ให้รัฐบาลจ่ายชดเชยให้เกษตรกรไร่ละ 1,113 บาท/ไร่ สูงสุด 30 ไร่ บริษัทประกันภัยจะชดเชยให้ตามจำนวนไร่ที่ทำประกันภัยไว้ หลังจากที่ ครม.มีมติจ่ายชดเชยความเสียหายเกษตรกรภายใน 15 วัน

          ประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า ปีนี้เบี้ยประกันเฉลี่ยถูกลงกว่าปีที่แล้ว 4.8% ส่วนเบี้ยประกันภัยต่างกัน เพราะคิดค่าเบี้ยตามพื้นที่เสี่ยง 5 โซน พื้นที่เสี่ยงต่ำที่สุดเบี้ยอยู่ที่ 115 บาท/ไร่/ปี พื้นที่เสี่ยงต่ำมาก คิดเบี้ย 220 บาท/ไร่/ปี พื้นที่เสี่ยงต่ำ คิด 330 บาท/ไร่/ปี พื้นที่เสี่ยงปานกลาง คิด 420 บาท/ไร่/ปี และพื้นที่เสี่ยงสูง คิด 450 บาท/ไร่/ปี

          ขณะที่การจ่ายค่าเบี้ยประกันภัย เกษตรกรจ่ายเองเพียงไร่ละ 60-100 บาท/ปี ขึ้นอยู่กับพื้นที่ รัฐบาลจะจ่ายให้ไร่ละ 64.12-383.64 บาท/ปี ขึ้นอยู่กับพื้นที่ความเสี่ยง และถ้าเป็นลูกค้าอง ธ.ก.ส.จะได้รับการอุดหนุนค่าเบี้ยให้อีกไร่ละ 10 บาท

          ลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ยืนยันว่า ปีนี้น่าจะได้ตามเป้าหมายที่วางเพราะเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนไว้กับ ธ.ก.ส. 3.7 ล้านครัวเรือน คิดเป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปี 61 ล้านไร่ ซึ่งเป้าหมายที่วางไว้เป็นไปได้แน่

          นอกจากนี้ ปีนี้ยังเริ่มเปิดโครงการเร็ว ทำให้อนุมัติประกันภัยได้เร็ว จะมีการทำประชาสัมพันธ์ร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทยในแต่ละภาคต่อเนื่อง เริ่มเปิดขายวันที่ 15 พ.ค.-14 ส.ค. ก่อนเพาะปลูก และภาคใต้จะสิ้นสุดการรับประกันภัยวันที่ 11 ธ.ค. และพนักงาน ธ.ก.ส.จะลงไปให้ความรู้แก่เกษตรกรทุกพื้นที่

          ขณะที่ความเสียหายของโครงการรับประกันภัยข้าวนาปี ซึ่งเริ่มปี 2554 บริษัทจ่ายค่าสินไหมทดแทน 700% จากเบี้ยที่รับ เพราะเกิดน้ำท่วมใหญ่นับเป็นปีที่ขาดทุนหนักสุด ปี 2555 จ่ายสินไหมกว่า 100% ยังขาดทุน

          ล่าสุด ปี 2557 ที่ผ่านมาเริ่มอยู่ตัว ทำให้ธุรกิจประกันภัยลดราคาเบี้ยลงเฉลี่ย 4.8% สำหรับเกษตรกรที่จะซื้อต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร (ทบก.) ปี 2557/2558 กับกรมส่งเสริมการเกษตรและจำเพาะปลูกข้าวนาปีในปีนี้ (2557/2558) จากนั้นใช้สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก ธ.ก.ส.ไปติดต่อ ธ.ก.ส. เพื่อขอซื้อได้ทุกสาขา จากนั้นจะได้หนังสือรับรองการประกันภัยเป็นหลักฐาน  กระทรวงการคลังจะส่งเสริมให้ชาวนาทำประกันภัยนาข้าว เพื่อป้องกันภัยต่างๆ ที่เกิดจากธรรมชาติ โดยจะได้รับเงินชดเชยจากบริษัทประกัน ทำให้ลดความเสียภายลง ซึ่งรัฐบาลจะเป็นผู้ช่วยออกค่าประกันภัยให้ประมาณ 80% และชาวนาออกค่าประกันเพียง 20% เท่านั้น

          ในปีที่ผ่านมามีชาวนาทำประกันนาข้าว 8 แสนไร่ ปีนี้คาดว่าจะได้ 1.5 ล้านไร่ ในปีหน้าจะทำให้ได้ 2 ล้านไร่ ไปจนถึงปี 2560 จะให้ได้ 3 ล้านไร่

          ปัจจุบันบริษัทเอกชนที่ รับประกันภัยขาดทุนจากการ รับประกันภัยนาข้าวปีที่ผ่านมา 200 ล้านบาท แต่หากมีชาวนาประกันภัยมากถึง 2-3 ล้านไร่ คาดว่าจะทำให้ผู้รับประกันไม่มีปัญหาขาดทุน นอกจากนี้ยังลดภาระงบประมาณการจ่ายช่วยชาวนาในแต่ละปีอีกด้วย


ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  16 พ.ค. 58  หน้า A3